Meta รุก NFT ฟีเจอร์ใหม่ในอินสตาแกรม ดันราคา Flow พุ่งกว่า 50%
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก หรือ Meta ประกาศรุกตลาด NFT ปล่อยฟีเจอร์ใหม่อินสตาแกรมกว่า 100 ประเทศ ดันราคา Flow พุ่งกว่า 50% ภายในคืนเดียว แม้เสียรายได้จากการทำเมตาเวิร์สในไตรมาส2/65 'ซัคเคอร์เบิร์ก' เผยอาจได้มากกว่าล้านล้านดอลลาร์เมื่ออุตสาหกรรมเติบโต
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก หรือ Meta ประกาศเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่าอินสตาแกรมได้ขยายการสนับสนุน NFT ไปยังอีก 100 ประเทศในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และอเมริกา เป็นผลให้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้น สามารถโพสต์ของสะสมดิจิทัลที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Flow บนอินสตาแกรม
โดยผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลกับอินสตาแกรมเพื่อโพสต์ NFT ตามที่บริษัทกล่าวในโพสต์อัปเดต โดยกระเป๋าเงินที่รองรับคือ Rainbow, MetaMask, Trust Wallet, Coinbase Wallet และ Dapper Wallet ซึ่งบล็อกเชนที่รองรับในขณะนี้ ได้แก่ Ethereum, Polygon และ Flow โดยจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มกับการโพสต์หรือแบ่งปันของสะสมดิจิทัลบนอินสตาแกรม
Flow เป็นบล็อคเชน layer-1 ที่มีโทเคน FLOW ซึ่งใช้ในการทำธุรกรรม และการกำกับดูแล โดยมีพันธมิตรด้านระบบนิเวศที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Warner Music, Ubisoft, National Basketball Association, Ultimate Fighting Championship, Animoca Brands, Circle, Binance, OpenSea และปัจจุบันคือ Meta
โดยราคาเหรียญ FLOW ณ วันที่ 5 ส.ค.2565 ตามดัชนีคอยน์มาเก็ตแคป เพิ่มขึ้น 51.6% เคลื่อนไหวที่ราคา 2.73 ดอลลาร์ จาก 1.8 ดอลลาร์ ภายในคืนเดียว
นอกเหนือจากเมตาเวิร์สแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลได้กลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของ Meta สำหรับการขยายด้านเทคโนโลยีตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565 ทำให้รายรับของบริษัทลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานลดลง 32% มาอยู่ที่ 8.36 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าเขาไม่สะทกสะท้านกับการสูญเสียมหาศาลถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ในการทำเมตาเวิร์สของบริษัท เพราะมันมีโอกาสที่จะสร้างรายได้ “หลายร้อยพันล้าน” หรือแม้แต่ “ล้านล้านดอลลาร์” เมื่ออุตสาหกรรมนี้เติบโตเต็มที่