Sideway หุ้นรายงานพิเศษ IIG (8 ส.ค. 2565)
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมกนง. ซึ่งตลาดคาดว่า จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นักลงทุนติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. ของสหรัฐในคืนนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,601.09 จุด +2.34 จุด +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 58,838 ลบ. ต่างชาติ +901.44 ลบ. TFEX +1,432 สัญญา ตราสารหนี้ -545.83 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 76.65 จุด +0.23% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง ถูกกดดันจากหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับตัวลง หลังการโดยนักลงทุนวิตกว่า FED อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ +0.5% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ในรอบสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 9.7% จากวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
+ สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. พุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6%
+ จีนเปิดเผยมูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนขยายตัว 10.4%YoY แตะระดับ 23.6 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
+ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐเปิดเผยว่าสถาบันการเงินของรัฐจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำให้นานที่สุด เพื่อบริหารต้นทุนการดำเนินงาน หากจำเป็นจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ให้น้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบภาระค่าใช้จ่าย
ปัจจัยลบ
- อังกฤษเปิดเผยว่า การกระทำของรัสเซียที่ใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซียเป็นโล่กำบัง อาจบ่อนทำลายเสถียรภาพและความปลอดภัยของการดำเนินงานที่โรงไฟฟ้า
- โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวที่ทำเนียบขาวว่า เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) และกองเรือคุ้มกันจะยังคงประจำการอยู่ในทะเลจีนใต้นานกว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรก
- ส.อ.ท.จับตาสถานการณ์ขาดชิป กระทบอุตฯ ยานยนต์ หลังจีนงดส่งออกทรายดิบป้อนไต้หวัน ดันราคาชิปพุ่งต้นทุนเพิ่ม - ธปท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนกรกฎาคม 2565 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับลดลงมาอยู่ที่ 49.4 จาก 50.5 ในเดือนก่อน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,842 ราย มีผู้เสียชีวิต 34 ราย รักษาหาย 2,015 ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway ระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังกังวลว่าตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกว่า เฟด อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์นี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,590-1,605 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
• ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ + สธ. เตรียมยกระดับ ฝีดาษลิง โรคติดต่อร้ายแรง : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH PR9
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน : EA GPSC FORTH DELTA PIMO
หุ้นรายงานพิเศษ
IIG - Bloomberg Consensus 45 บาท "เก็งกำไร"
•คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 โต YoY QoQ สนับสนุนจาก Backlog ณ ปลาย 1Q65 ราว 422 ลบ. ขณะที่แนวโน้มปี 65 ผบห.ตั้งเป้ารายได้เติบโต 35-40% สู่ราว 900-950 ลบ. เติบโตจากเทรนด์ของ Digital Transformation ในการนำซอฟต์แวร์มาจัดการข้อมูลเพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทยังมีงานที่อยู่ใน Pipeline อีกราว 500 ลบ. และมีอัพไซต์จาก JV และ M&A ราว 2-3 ดีล คาดจะชัดเจนในช่วง 2H65
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2Q65 และทั้งปี 65 จากเทรนด์ของธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแส โดยเฉพาะธุรกิจภายในประเทศไทยที่อยู่ในช่วง Early Stage ของการทำ Digital Transformation โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 ราว 114.6 ลบ. +44%YoY ขณะที่ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา 16% ในช่วง 60 วันที่ผ่านมา ยังต่ำกว่ากลุ่ม อาทิ BBIK และ BE8 ที่ปรับขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นมีอัพไซต์เพียงราว 10% เราจึงแนะนำ เก็งกำไร
หุ้นมีข่าว
(+) SCGP (Bloomberg consensus 64.00 บาท) แย้มมีดีลซื้อกิจการและพาร์ตเนอร์ธุรกิจใหม่ 1-2 ดีลไตรมาส 4 อัพฐานรับทรัพย์ งบลงทุน 4 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจรีไซเคิล Peute รับรู้ไตรมาส 3 ชี้เข้าลงทุนใน Imprint แบตเตอรีแบบพิมพ์สำหรับ IOT คืออนาคต ส่งซิกครึ่งหลังปี 2565 แจ่ม ขานรับพอร์ตลูกค้าขยายตัว คงยอดขาย 1.5 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) HMPRO (Bloomberg consensus 17.00 บาท) ชูไตรมาส 3 จะเติบโตแรงจากฐานต่ำ ชี้ช่วงกรกฎาคมขายดี มีการจัดงาน Homepro Super Expo ช่วยหนุนยอดขาย ตั้งเป้า SSSG ทั้งปี 2565 บวก 5% จากช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1-2% เดินหน้าเปิดสาขาเมกาโฮม 5 สาขา และโฮมโปร 1 สาขา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCM (Bloomberg consensus - บาท) ประกาศพร้อมเร่งเครื่องธุรกิจเครือข่ายหลังเปิดเมือง การตลาดออฟไลน์กลับมาแกร่ง ขณะที่ออนไลน์ยังเดินหน้า มั่นใจครึ่งปีหลังโตแรงกว่าครึ่งปีแรก ทั้งปีรายได้โต 20% สมาชิกเพิ่ม 35% ลุยออกสินค้าใหม่อีก 2 โปรดักต์ต่อยอด สยายปีกต่างประเทศเพิ่ม ธุรกิจลิสซิ่งจะโตเร็ว ปักธงปี 2567 รายได้แตะ 3 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) III (Bloomberg consensus 19.10 บาท) ครึ่งหลังขนส่งไฮซีซันหนุน แถมค่าระวางยังทรงตัวระดับสูงเมื่อเทียบก่อนเกิดโควิด ขณะที่ขนส่งทางราง เตรียมเปิดตัวพันธมิตรจีนรายใหม่ช่วงไตรมาสที่ 3/2565 หวังเดินหน้าเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในต้นปี 2566 ขณะที่ผลงานปีนี้คาดนิวไฮ มีรับรู้รายได้ธุรกิจในเครือเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)