คาด SET Index แกว่งตัวจากปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามาในสัปดาห์นี้
ค่าเงินสหรัฐฯกลับมาแข็งค่าหลังการจ้างงานสหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาดมาก การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) ก.ค.ออกมา 528,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากมิ.ย.ที่ 372,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าตลาดคาดที่ 250,000 ตำแหน่ง ค่อนข้างมาก
ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯกลับมาแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และกลับมาให้น้ำหนักกับตัวเลขเงินเฟ้อ ที่จะประกาศ 10 ส.ค.นี้ ซึ่งล่าสุด Bloomberg concensus คาดการณ์เงินเฟ้อ ก.ค.ที่ 8.7% ชะลอตัวจากมิ.ย.ที่ 9.1%
แกว่งตัวจากทั้งผลประกอบการและปัจจัยต่างๆ คาด SET Index แกว่งตัวเนื่องจากเป็นสัปดาห์ที่บริษัทจำนวนมากมีกำหนดรายงานผลประกอบการ ขณะที่มีปัจจัยให้ติดตามหลายเรื่องได้แก่ 1) เงินเฟ้อสหรัฐฯ (คาดชะลอตัวลงเหลือ 8.7% จาก 9.1%) 2) การประชุมกนง. (คาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรก 0.25%) 3) กสทช.พิจารณาเรื่องควบรวม TRUE-DTAC ซึ่งน่าจะยังเห็นการดึงเวลาก่อนการตัดสินใจซึ่งเราเชื่อว่าจะออกมาในแนวทางประนีประนอม 4) การปรับหุ้นเข้าออกดัชนี MSCI (11 ส.ค.)
กลุ่มธนาคารอาจถูกสลับมาเก็งกำไรก่อนประชุมกนง. กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อ ไทย ก.ค. ที่ 7.61% YoY ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 8% และต่ำกว่ามิ.ย.ที่ 7.66% ขณะที่ สนค.ปรับประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ 5.5-6.5% ประเมินตัวเลขดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกให้กลุ่มการเงิน (Finance) เนื่องจากช่วยลดแรงกดดันการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วยอัตราเร่งของกนง. ในการประชุม 10 ส.ค. ทีมกลยุทธ์มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลาง และได้แนะนำหุ้นการเงินหลายตัวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในระยะสั้น อาจต้องระวังแรงขายทำกำไร ที่น่าจะเกิดก่อนการประชุมกนง. หลังหุ้นในกลุ่มทยอยปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดมาแล้ว 15-25% และบางตัวเริ่มเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ โดยในระยะสั้นตลาดอาจสลับมาเก็งกำไรกลุ่มธนาคารคั่นเวลา เราชอบ BBL และ KBANK
ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN 5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค JMT, HANA, PTL, PR9, TEAM, OTO, ICHI
ภาพรวมกลยุทธ์: มองแกว่งตัวก่อนขึ้นทดสอบ 1,630-1,650 จุด SET เป็นบวกตราบใดไม่หลุด 1,577-1,585 จุด ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) ขณะที่เก็งกำไรระยะสั้น มองหุ้นใหญ่ที่อาจได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้ารอบใหม่ อาทิ ธนาคาร การเงิน มีความน่าสนใจ สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม //หุ้นแนะนำ: MBK*, WHA*, OR*, TVDH*
แนวรับ: 1,585-1,593 / แนวต้าน : 1,610 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาดในเดือนก.ค. – พุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากคาดการณ์ที่ 258,000 ตำแหน่ง
จีนเผยมูลค่าการค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10.4% ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ - แตะระดับ 23.6 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 14.7% yoy สู่ระดับ 13.37 ล้านล้านหยวน
คาดศก.ไทยฟื้นต่อเนื่อง แม้เงินเฟ้อสูง หลังนทท.เข้าไทยกว่า 3 ล้านคน – ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2565 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสะสมอยู่ที่ 3,150,303 คน สามารถสร้างรายได้ 1.57 แสนล้านบาท โดยประเทศที่เดินทางมาไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 425,289 คน อินเดีย 333,973 คน สิงคโปร์ 183,716 คน สหราชอาณาจักร 161,780 คน และสหรัฐอเมริกา 146,891 คน ตามลำดับ
ททท. เผย "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5" สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.2 หมื่นลบ. - การใช้สิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5" ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 ที่ผ่านมา พบว่า เดือนแรกตั้งแต่ 1-31 ก.ค. มีการใช้จ่ายในโครงการรวมมูลค่ากว่า 12,228 ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิโรงแรมที่พักจำนวน 834,192 คน แบ่งเป็นการจองโรงแรม 2,028 แห่ง จำนวนห้อง 2,888,881 ห้องพัก ทำเงินสะพัดในธุรกิจโรงแรม 10,218 ล้านบาท
นายกฯสั่งกกพ.เลื่อนแถลงขึ้นค่า Ft อีกรอบ – สั่งรื้อโครงสร้างปรับสูตรคำนวณใหม่เพื่อช่วยเหลือปชช. ขณะพี่กกพ.ยืนยันส่งมติบอร์ดไปยัง 3 การไฟฟ้าแล้ว
AIS เผยจำเป็นลดค่าเช่าเสริมเสถียรภาพ JASIF – ADVANC แจงการเข้าซื้อหุ้นใน TTTBB และ JASIF เพื่อต้องการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งระยะยาว ผลตอบแทนจะลดลงจาก 9-10% เหลือ 7% ต่อปี แม้ตัวเลขจะลดลง แต่แลกกับการจ่ายปันผลได้ยาวขึ้นจากการต่อสัญญาออกไป บวกกับ AIS จะเข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ JASIF
ประเด็นติดตาม: 10 ส.ค. – ประชุม กนง, US CPI / 11 ส.ค. – US PPI, OPEC Monthly Report / 16 ส.ค. - US Building Permits / 17 ส.ค. – US Retail Sales / 18 ส.ค. – EU CPI, US Existing Home Sales
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)