ตลท.จับตาประชุมกนง. ชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลท. จับตาประชุมกนง. 10 ส.ค.นี้ ชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย ลุ้นปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศหนุน ดึงฟันด์โฟวล์ไหลเข้าต่อ เผยเดือนก.ค. “ต่างชาติ” พลิกกลับมาซื้อสุทธิ 4.66 พันล้าน ส่งผล 7 เดือนแรกปี 65 บวกกว่า “แสนล้าน”
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ส.ค. นี้ มองว่าเป็นการส่งสัญญาณขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สำคัญมาก และการส่งสัญญาณครั้งต่อๆ ไปจะทำอย่างไรซึ่งจะมีผลต่อเซ็นทริเม้นต์ต่อตลาดหุ้นไทย
แม้ว่าการประชุมกนง. รอบนี้ เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิิด จากผลการประชุมกนง.รอบที่ผ่านมา มีมคิตงดอกเบี้ยที่ 0.5% ผลโหวตใกล้เคียงกันมาก สะท้อนว่ามีการถกในการใช้นโยบายการเงินเมื่อเศรษฐกิจไทยร้อนแรงจำเป็นต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยแล้วหรือไม่
ขณะที่ ปัจจัยลบนอกประเทศตลาดรับข่าวไปค่อนข้างมากแล้ว และส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยโดยในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติ เริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 4,662 ล้านบาท จากเดือนมิ.ย. เป็นขายสุทธิเกือบ 30,000 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ ยังมีเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟวล์) ไหลเข้าหุ้นไทยค่อนข้างมากซื้อสุทธิรวม 113,730 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ต่อไปยังต้องคอยติดตามปัจจัยดอกเบี้ยสหรัฐ เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีผลต่อกระแสฟันด์โฟล์จะไหลเข้าหรืออกจากตลาดหุ้นไทยได้ หากเซ็นทริเม้นท์ตลาดเริ่มสะท้อนสหรัฐรับมือเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงไม่ได้ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและราคาน้ำมันจะปรับลดลงแล้ว ก็มีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์ไหลออกได้
จากปัจจุบันเซ็นทริเม้นต์นักลงทุนต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทยยังดีอยู่ สะท้อนจากตลาดหุ้นไทยรับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นประเทศอื่นในภูมิภาค หุ้นไทยมีปัจจัยหนุนการเติบโต จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย หลังเปิดปรเทศเริ่มนักท่องเที่ยวกลับเข้ามามากขึ้น
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ช่วงนี้คือช่วงเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเวลามีข่าวดีหรือข่าวร้ายจะมีผลต่อตลาดการเงินทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เราเผชิญทั้งปัจจัยในและต่างประเทศที่ทำให้ปริมาณการซื้อขายและปริมาณการลงทุนต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็น หากมีข่าวใหม่ที่ดีจากต่างประเทศเชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยบวกสะท้อนกลับมาในตลาดหุุ้นไทยได้เร็วมาก
โดยพบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาแล้ว 3,000-4,000 ล้านดอลาร์ เพียงไม่กี่ไตรมาสก็สามารถมีเม็ดเงินต่างชาติกลับเข้ามาใกล้เคียงหลังจาก 2-3 ปีก่อนเป็นเงินไหลออกรวมกัน 7,000-8,000 ล้านดอลลาร์ ถ้ายังมีข่าวดีเข้ามาก็น่าจะผลักดันเงินไหลเข้าต่อเนื่อง