เน้นเลือกรายตัว เงินเฟ้อสหรัฐฯ / กนง. / งบ / กดดันบรรยากาศช่วงสั้น

ซึ่งล่าสุดตลาดลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาแข็งแกร่ง (ก.ค. 528,000 ตำแหน่ง vs มิ.ย. 372,000 ตำแหน่ง) แต่นักลงทุนก็อยากเห็นการชะลอของเงินเฟ้อ เพื่อการันตีว่าบรรยากาศลงทุนในช่วงต่อไปจะผ่อนคลายมากขึ้น โดยตลาดคาดเงินเฟ้อ ก.ค. จองสหรัฐฯ ที่ 8.7% YoY (จากมิ.ย. 9.1%) และ 0.2% MoM (จากมิ.ย. 1.3%)

 

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับแรงกดดันจาก /การรายงานผลประกอบการ/บาทแข็ง/กลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ สหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์ คาดว่าวันนี้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จะยังได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มผลประกอบการ / เงินบาทแข็งค่า / และรวมไปถึงราคาหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์สหรัฐฯ ที่ปรับลดลง โดย Philadelphia Semiconductor Index (SOX) ปรับลดลง 4.57% หลัง NVDIA และ Micron Technology ปรับลดแนวโน้วและมุมมองของอุตสาหกรรมในช่วง 1-3 ไตรมาสหน้า (Micron ยังใช้คาดการณ์เดิม เมื่อ 30 มิ.ย. แต่ให้มุมมองเพิ่มเติมว่าผลประกอบการน่าจะออกมาในด้านต่ำของกรอบ)
 

กลุ่มการเงิน ระยะสั้นได้รับแรงกดดันจาก กนง. และคุณภาพลูกหนี้ที่แย่ลง การรายงานผลประกอบการของหุ้นการเงินหลายตัว (ECL, MITSIB, MTC) แม้จะมีผลประกอบการออกมาต่างกัน แต่ให้ภาพตรงกันในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ที่ชะลอตัวลง และการเพิ่มขึ้นของ NPL แม้กระทั่งผู้ประกอบการที่ตั้งสำรองสูงอย่าง MTC ยังมี coverage ratio ที่ลดลงต่ำ 100 % เป็นครั้งแรก (และต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 130-150%) ซึ่งเรามองปัจจัยข้างต้นจะสร้างแรงกดดันเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มการเงินอื่นๆที่ยังไม่ประกาศผลประกอบการได้

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค JMT, HANA, PTL, PR9, TEAM, OTO, ICHI

 

ภาพรวมกลยุทธ์: มองแกว่งตัวก่อนขึ้นทดสอบ 1,630-1,650 จุด SET เป็นบวกตราบใดไม่หลุด 1,577-1,585 จุด ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) ขณะที่เก็งกำไรระยะสั้น มองหุ้นใหญ่ที่อาจได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้ารอบใหม่ อาทิ ธนาคาร การเงิน มีความน่าสนใจ สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม   //หุ้นแนะนำ:  CPN*, LHFG*, OR*, TNP*

แนวรับ: 1,610 / แนวต้าน : 1,630 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

ประเด็นการลงทุน

ยูเครนหยุดส่งน้ำมันให้ยุโรป หลังไม่ได้เงินจากรัสเซีย – ยูเครนได้ระงับการส่งน้ำมันของรัสเซียผ่านท่อส่ง Druzhba ซึ่งมีการขนส่งน้ำมัน 250,000 บาร์เรล/วัน ส่งผลให้ฮังการี สาธารณรัฐเชก และสโลวาเกียไม่ได้รับน้ำมันดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. เนื่องจากรัสเซียไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมขนส่งน้ำมันให้แก่ยูเครน 

ผู้ผลิตชิพทยอยเผยคาดการณ์เชิงลบ – ไมครอน เทคโนโลยี (MU.O) ออกมาลดคาดการณ์รายได้ไตรมาสนี และเตือนว่าจะมี Free Cash Flow เป็นลบใน 3 เดือนข้างหน้าเนื่องจากลูกค้ามีสต็อกเก่าอยู่ค่อนข้างเยอะจากความต้องการชิพที่ใช้ใน PC และสมาร์ทโฟนลดลง เป็นการส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่องหลัง Nvidia เผยก่อนหน้านี้ครม.ไฟเขียวชุดสิทธิประโยชน์พื้นที่

เมืองการบินภาคตะวันออก ดันเป็นเขตการค้าเสรี – ครม.มีมติเห็นชอบกำหนดเมืองการบินแอร์พอร์ตซิตี้ 1,032 ไร่ ที่อยู่ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EECa) เป็นเขตประกอบการค้าเสรี 

กกพ.ยันขึ้นค่า Ft งวดใหม่ 68.66 สต./หน่วย - ยืนยันค่าไฟฟ้าค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวด ก.ย.-ธ.ค. 2565 ปรับขึ้นอีก 68.66 สตางค์/หน่วย ส่วนกรณีที่ภาครัฐไม่ต้องการให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหาเงินมาช่วยเหลือประชาชน

ตีความระยะเวลาเป็นนายกฯ - การเมือง วิปฝ่ายค้านเตรียมยื่นตีความระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี วันที่ 17 ส.ค. ซึ่งหากยึดตามเอกสารประชุมคณะกรรมการร่างรฐน. จะครบ 8 ปี วันที่ 24 ส.ค.65

สื่อสาร – นสพ.รายงานการประชุมบอร์ดกสทช. 10 ส.ค. จะยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการควบรวม ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของเราว่ากสทช.น่าจะยังต้องใช้เวลาอีกระยะ

Opportunity day – 10 ส.ค. - THCOM, ADVANC, THREL, INSET, IT, PSL, VIH / 11 ส.ค. - ADB, PIMO, SUN, SPALI, MTC, DOHOME, OSP / 15 ส.ค. – HENG, THRE, CMO, TKC, SMT, SNNP, TFM, SPRC, TSE, SAK, KEX, GLOBAL, INTUCH, IVL

 

ประเด็นติดตาม: 10 ส.ค. – ประชุม กนง, US CPI / 11 ส.ค. – US PPI, OPEC Monthly Report / 16 ส.ค. - US Building Permits / 17 ส.ค. – US Retail Sales / 18 ส.ค. – EU CPI, US Existing Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)