LPH ผลประกอบการ 2Q65: เป็นไปตามคาด (10 ส.ค. 2565)
กำไรสุทธิของ LPH ใน 2Q65 อยู่ที่ 70 ล้านบาท (-17.2% YoY, -53.7% QoQ) คิดเป็น 22.8% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 308 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่ 69 ล้านบาท (ไม่มี consensus) กำไรสุทธิที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ เป็นเพราะอัตรากำไรลดลง
เนื่องจากรัฐบาลลดการจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วย COVID-19 ลงอย่างมีนัยสำคัญ (จากรายละประมาณ 15,000 บาท เหลือเพียง 1,200 บาทตั้งแต่เดือนมิถุนายน) ดังนั้น รายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จึงลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 25% ของรายได้รวมของบริษัท (จากก่อนหน้านี้ที่ 40%-60%) ทั้งนี้ รายได้อยู่ที่ 583 ล้านบาท (+10.3% YoY, -18.1% QoQ) ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 28.5% จาก 32.2% ใน 2Q64 และ 36.8% ใน 1Q65 นอกจากนี้ สัดส่วน SG&A/ยอดขายยังเพิ่มขึ้นเป็น 15.9% จาก 12.7% ใน 2Q64 และ 12.3% ใน 1Q65
คาดว่าผลประกอบการใน 2H65F จะแผ่วลง HoH
เรายังคงคาดว่า ผลการดำเนินงานของ LPH ใน 2H65 จะลดลงจาก 1H65 เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น และได้รับการจ่ายค่ารักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาลลดลงตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผู้ป่ วยกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับ COVID หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ลดความรุนแรงลง
คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566F เอาไว้เท่าเดิม
เนื่องจากกำไรสุทธิใน 1H65 คิดเป็น 72.1% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 308 ล้านบาท (-33.8% YoY) และปี 2566F ที่ 285 ล้านบาท (-7.3% YoY)
Valuation & action
เรามองว่าแนวโน้มของบริษัทสดใสมากขึ้น เพราะผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนถนนลาดพร้าวผ่านพ้นไปแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 7.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 2.0%)
Risks
COVID-19 ระบาด, การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่