แก้วิกฤติเศรษฐกิจ ผู้นำต้องมีไอเดีย

การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 วานนี้ (11 ส.ค.) ถือเป็นการประชุมสำคัญเพราะเป็นการประชุมครั้งแรก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 

โดย นายกฯ กล่าวก่อนเปิดประชุมว่า การประชุมนัดแรก เป็นผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศขยายวงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องกำหนดฉากทัศน์ของเราออกมา หลังจากนั้นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประเมินสถานการณ์ผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ

หากมองปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก ความเสี่ยงใหญ่สุดหนีไม่พ้น "สงครามของรัสเซีย" ใน "ยูเครน" ที่กำลังจะครบหกเดือน ทั้งสองฝ่ายยังยันกันอยู่ไม่เห็นวี่แววยุติ ฉุดราคาพลังงานพุ่งสูงส่งผลต่อเนื่องไปถึงราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เมื่ออาหารแพงก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า 

ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก ความปั่นป่วนในช่องแคบไต้หวันเมื่อสัปดาห์ก่อนเหมือนเป็นหนังตัวอย่างว่า ถ้าสหรัฐกับจีนขัดแย้งกันเรื่องการเปลี่ยนสถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวัน จีนจะจัดการอย่างไร ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบินและเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือมากแค่ไหน เหล่านี้ล้วนมีผลต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศทั้งสิ้น  

แค่สงครามของรัสเซียในยูเครนอย่างเดียวเศรษฐกิจโลกก็เสียหายทุกวัน เห็นได้จากตัวเลข "เงินเฟ้อ" พุ่งสูงทั่วโลก หากดูสหรัฐที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดเดือน ก.ค. อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 8.5% จากเดือน มิ.ย.ที่สูงสุดในรอบ 40 ปี ถึง 9.1% 

นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า เงินเฟ้อสหรัฐอาจผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ลดแรงกดดันต่อเฟดในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ส่วนเงินเฟ้อไทย เดือน ก.ค.สูงถึง 7.61% เมื่อเทียบกับ ก.ค.2564 อันนี้คือโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องคิด ระหว่างที่นายกฯ ประยุทธ์มอบหมายให้ สศช.กำหนดฉากทัศน์ที่ต้องรับมือแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ก็มีอีกหนึ่งข่าวที่คนไทยมองข้ามไม่ได้ นั่นคืออดีตประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา จะออกจากสิงคโปร์มาเมืองไทย ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจงว่า มาได้เพราะถือหนังสือเดินทางทูต พักในไทยได้ 90 วัน 

อย่าลืมว่าชะตากรรมของอดีตประธานาธิบดีศรีลังการายนี้มาจากการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดทำให้ประชาชนอดอยากยากแค้น รัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้ประกาศสถานะล้มละลาย มวลชนประท้วงเรียกร้องให้ราชปักษาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเท่าใดก็ไม่ยอมลาออก ยื้ออยู่จนกระทั่งม็อบต้องพากันไปบุกทำเนียบจึงต้องหนีออกนอกประเทศจากมัลดีฟส์ไปสิงคโปร์กว่าจะประกาศลาออก 

เห็นบทเรียนจาก "ศรีลังกา" แล้วได้แต่คิดว่า หากจะกำหนดฉากทัศน์ ฝากผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูฉากทัศน์นี้ไว้ด้วยก็แล้วกัน เพราะการทำงานใหญ่ไม่ใช่แค่ออกคำสั่ง แต่ผู้นำต้องมีไอเดียนำพาเศรษฐกิจประเทศให้รอด!