EGCO โชว์ กำไรครึ่งปีแรก65 โต59% ที่ 3.3 พันล้าน เดินหน้าลงทุนโครงการใหม่
EGCO เผย ครึ่งปีแรก65 กำไรสุทธิ 3.33 พันล้าน เพิ่มขึ้น 59%สุดประสบความสำเร็จในการปิดงานก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1”-โครงการ“ทีพีเอ็น” เตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ จ่อรับรู้รายได้ทันที พร้อมเดิหน้าหาโอกาสลงทุนใหม่ต่อเนื่อง
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)หรือ EGCO เปิดเผยว่า “การดำเนินงานในไตรมาส ที่ 2 ปี 2565 มีความก้าวหน้าและเป็นไปตามแผนงาน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ติดตามสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่ดีเพื่อให้การเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความก้าวหน้าทางธุรกิจที่สำคัญจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จังหวัดระยอง และความสำเร็จในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าและโครงการพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ“น้ำเทิน 1” กำลังผลิตติดตั้งรวม 650 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว และโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” จังหวัดสระบุรี-ขอนแก่น ซึ่งเตรียมพร้อมจะเดินเครื่อง เชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้ต่อไป”
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวมทั้งสิ้น 15,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า “บีแอลซีพี” และโรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 2” รวมทั้งการรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท “เอเพ็กซ์ คลีนเอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้งส์” ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ใน 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ได้รับผลกระทบจากการแปลงมูลค่าหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทอันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม (Fair value) ของเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด
สำหรับทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 2565 นายเทพรัตน์ กล่าวว่า “เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” โดยมุ่งขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจกลางน้ำ ในพื้นที่ที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้วโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ตลอดจนขยายธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค ผ่านการดำเนินโครงการ “ทีพีเอ็น” และพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve อย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนในบริษัท “อินโนพาวเวอร์” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและ สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต”