‘เอลนีโญ’ ดันราคา ‘โกโก้’ แพงสุดรอบ 7 ปี ‘ดาร์กช็อก’ กระทบหนักสุด
ฝันร้ายคนรักช็อกโกแลต! เมื่อ “โกโก้” ส่วนผสมหลักในช็อกโกแลต ราคาพุ่งแตะนิวไฮรอบ 7 ปี ผลพวงจาก “เอลนีโญ” ปรากฏการณ์นี้เชื่อมโยงกับโกโก้อย่างไร และยังมีปัจจัยอื่นที่ดันราคาให้พุ่งแรงอีกหรือไม่
“ช็อกโกแลต” ขนมหวานสำหรับเป็นของขวัญและของทานเล่น กำลังเผชิญราคาแพง เมื่อ NielsenIQ บริษัทให้บริการฐานข้อมูลลูกค้าระบุว่า ในปี 2565 ราคาช็อกโกแลตทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากต้นทุนหลักของช็อกโกแลตอย่าง “โกโก้” สูงขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ ราคาโกโก้เมื่อวันศุกร์ (16 มิ.ย) พุ่งทะยานไปที่ 3,160 ดอลลาร์ (เกือบ 1.1 แสนบาท) ต่อเมตริกตัน สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2559
- ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” พ่นพิษ
สำหรับสาเหตุที่ราคาโกโก้ปรับตัวสูงขึ้น มาจากอุปทานโกโก้ลดน้อยลง โดยเซอร์เกย์ เชตเวอร์ทาคอฟ (Sergey Chetvertakov) นักวิเคราะห์ของบริษัท S&P Global Commodity Insights ซึ่งให้บริการข้อมูลด้านพลังงานและโภคภัณฑ์ เปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า
อุปทานโกโก้ที่ลดลงเกิดจากปรากฏการณ์ที่ชื่อว่า “เอลนีโญ” ส่งผลให้ปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย และพัดพาลม “ฮามัททาน” (Harmattan) ที่มีกำลังแรงเคลื่อนไปยังทวีปแอฟริกาตะวันตก จนกระทบแหล่งเพาะปลูกใหญ่ต้นโกโก้ อย่างประเทศโกตดิวัวร์ หรือไอวอรีโคสต์ และประเทศกานา ซึ่งครองสัดส่วน 60% ของการผลิตโกโก้ทั่วโลก
เชตเวอร์ทาคอฟคาดการณ์ด้วยว่า ราคาโกโก้ฟิวเจอร์สามารถพุ่งสูงถึง 3,600 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันได้
ยิ่งไปกว่านั้น จากบริษัทฐานข้อมูลโภคภัณฑ์อาหาร Mintec ระบุว่า ราคาไขมันโกโก้ที่เพิ่มขึ้น 20.5% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังส่งผลให้ราคาช็อกโกแลตบาร์ปรับสูงขึ้นด้วย
ขณะที่ แอนดรูว์ โมริอาร์ตี (Andrew Moriarty) ผู้อำนวยการบริษัท Mintec ให้ความเห็นว่า เนื่องด้วยโกโก้ทำมาจากไขมันโกโก้เป็นหลัก ราคาไขมันโกโก้ที่สูงขึ้นจึงกระทบต่อราคาช็อกโกแลตโดยตรง
- ปัจจัยอื่นที่ดันราคาช็อกโกแลต
นอกจากปัญหาอุปทานโกโก้ที่ลดลงแล้ว ปัจจัยจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาน้ำตาลที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้ราคาช็อกโกแลตแพงขึ้นด้วย
BMI หน่วยงานวิจัยของสถาบัน Fitch Solutions รายงานว่า ราคาฟิวเจอร์น้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้น เกิดจากอุปทานน้ำตาลที่ลดลงในอินเดีย ไทย จีน และสหภาพยุโรป (EU) อันมาจากภัยแล้ง ซึ่งทวีปที่นำเข้าโกโก้มากที่สุดในโลกคือ ยุโรป
- ช็อกโกแลตแท่ง ขนมหวานยอดนิยมสำหรับทุกวัย (เครดิต: Freepik) -
- “ดาร์กช็อกโกแลต” กระทบหนักที่สุด
ในบรรดาช็อกโกแลตหลายประเภท “ดาร์กช็อกโกแลต” หรือช็อกโกแลตเข้มจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนโกโก้ที่สูงขึ้นมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของเนื้อโกโก้ ไขมันโกโก้และน้ำตาล ราว 50-90% มากกว่าที่ผสมในช็อกโกแลตขาวและช็อกโกแลตนม
โมริอาร์ตี ผู้อำนวยการบริษัท Mintec เสริมว่า ผลสุดท้าย ราคาช็อกโกแลตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ “ดาร์กช็อกโกแลต” ผลพวงหลักจากการใช้วัตถุดิบอย่างโกโก้ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้
อ้างอิง: cnbc