เปิดฉากท่องเที่ยววีซ่าฟรี ความหวังหนุนเศรษฐกิจ
ถึงตรงนี้อยากให้รัฐบาลมองทางเลือกไว้หลายทางทั้งในแง่ตลาดนักท่องเที่ยว และแนวทางฟื้นเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน หมดยุคกินบุญเก่า
มาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เปิดฉากขึ้นแล้ววานนี้ (25 ก.ย.) เจ้าตัวถึงกับไปต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกด้วยตนเอง เที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้ถึงสุวรรณภูมิ
มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 341 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 306 คน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นจำนวนอีก 35 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้มอบของที่ระลึก เป็นพวงมาลัยกล้วยไม้ พร้อมกางเกงช้างให้กับนักท่องเที่ยว
ตัดภาพไปที่อีกมุมหนึ่งของประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถานและสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต บรรยากาศชื่นมื่นไม่แพ้กัน มีการมอบพวงมาลัยต้อนรับ ของที่ระลึก กางเกงช้าง และตุ๊กตาช้าง เพื่อสะท้อนมิตรไมตรีและสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยว
ทั้งหมดนี้คือการเปิดฉากนโยบายเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Travelling) ด้วยมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่ 25 ก.ย. 2566 – 29 ก.พ. 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว พร้อมผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตามเป้าหมาย 25 - 30 ล้านคน ภายในปี 2566
กล่าวได้ว่า เป็นการออกนโยบายที่ถูกจังหวะหากมองในมุมนักท่องเที่ยวจีน ช่วงเวลาของนโยบายครอบคลุมวันหยุดยาวของชาวจีนสองช่วง ช่วงแรกคือวันหยุดยาวโกลเดนวีค ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.- 6 ต.ค. ควบวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติซึ่งไม่ได้ตรงกันบ่อยนัก คาดว่าในช่วง 8 วันนี้ชาวจีนเดินทางโดยเครื่องบินกว่า 21 ล้านคน
ในจำนวนนี้รวมถึงการเดินทางภายในประเทศด้วย ส่วนประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ไม่ได้มีไทยอย่างเดียว เกาหลีใต้, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ถือเป็นท็อปลิสต์เช่นกัน
อีกช่วงวันหยุดยาวของนักท่องเที่ยวจีนคือเทศกาลตรุษจีน ปี 2567 ตรงกับช่วงต้นเดือน ก.พ. ยังอยู่ในช่วงวีซ่าฟรี ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวคาซัคสถานถือเป็นตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพและเป็นตลาดใหญ่ในเอเชียกลาง มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจจากการเปิดเส้นทางการบินสู่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มเติมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
การเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างนครอัลมาตี้-ภูเก็ต จากสัปดาห์ละ 4 เที่ยวเป็น 7 เที่ยวผนวกกับนโยบายวีซ่าฟรีน่าจะช่วยดันยอดนักท่องเที่ยวคาซัคสถานให้ถึง 150,000 คนได้ในปีนี้
ในฐานะเจ้าบ้านได้เห็นคนต่างชาติมาเที่ยวบ้านเราก็ชื่นใจ เขาต้องรักต้องชอบเราล่ะ! ไม่งั้นคงไม่มากัน
อย่างไรก็ตาม การหาเงินจากการท่องเที่ยวแม้ทำได้ง่าย อาศัยบุญเก่าที่มีอยู่เดิมคือธรรมชาติอันงดงามต่อไปไม่น่าจะพอ การหารายได้ทางอื่นเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยก็ต้องทำด้วย และที่ต้องเตือนอยู่เสมอคือ อย่าหวังพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนให้มากนัก เศรษฐกิจจีนเองก็กำลังมีปัญหา
ถึงตรงนี้อยากให้รัฐบาลมองทางเลือกไว้หลายทางทั้งในแง่ตลาดนักท่องเที่ยว และแนวทางฟื้นเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน หมดยุคกินบุญเก่า