ส่องความสำเร็จ ‘กอร์ดอน แรมซีย์’ เชฟระดับโลก ก่อนเตรียมเปิดร้านในไทย 14 แห่ง
“กอร์ดอน แรมซีย์” เชฟดาวมิชลินผู้ทรงอิทธิพลในวงการอาหาร ผู้ซึ่งมีธุรกิจร้านอาหารทั่วโลกและยังโด่งดังในวงการรายการโทรทัศน์ระดับโลกอีกหลายรายการ ล่าสุด..เตรียมชิมลางเปิดร้านในไทย 2 ร้าน ก่อนจะตามมาอีก 12 แห่ง
Key Points:
- “กอร์ดอน แรมซีย์” เป็นที่รู้จักในฐานะเชฟระดับโลกมากความสามารถเจ้าของดาวมิชลิน และผู้สร้างสีสันให้กับรายการโทรทัศน์ชื่อดังที่ออกฉายไปทั่วโลก
- ก่อนที่กอร์ดอนจะก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของ “วงการอาหาร” เขาเคยมีความฝันจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่กลับบาดเจ็บเสียก่อน จึงเบนเข็มไปศึกษาเรื่องการทำอาหารและฝึกงานกับเชฟระดับตำนาน
- ล่าสุดกอร์ดอนเตรียมเปิดร้านอาหารในประเทศไทยถึง 14 แห่ง โดยเริ่มจาก 2 ร้านแรก “Bread Street Kitchen” และ “Street Pizza” บนห้างหรูย่านพร้อมพงษ์
ชื่อของ กอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay) เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะเชฟผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงอาหาร เพราะนอกจากเขาจะเป็นเจ้าของร้านอาหารดีกรีดาวมิชลินรวมกันถึง 8 ดวง และถ้านับรวมร้านอาหารทั้งหมดที่เขาเคยบริหารมา พบว่ามีดาวมิชลินรวมกันถึง 15 ดวง มีร้านอาหารในเครือหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้เขายังได้รับการยอมรับในวงการรายการโทรทัศน์อีกด้วย หลังร่วมสร้างสีสันในรายการวาไรตี้เกี่ยวกับการทำอาหารเป็นเวลาหลายปี
ล่าสุด “กอร์ดอน แรมซีย์” เตรียมเปิดร้านอาหารในประเทศไทย โดยประเดิม 2 ร้านแรกใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนจะตามมาอีก 12 แห่ง เป็นการร่วมลงทุนกับร้านอาหารในเครือบริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “TAN”
แม้ว่ากอร์ดอนจะเป็นที่รู้จักในฐานะเชฟมากประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ แต่กว่าเขาจะมายืนจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการทำอาหารไม่ใช่ความฝันของเขาตั้งแต่แรก แต่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ กรุงเทพธุรกิจจะพาไปทำความรู้จักเส้นทางความสำเร็จของ “กอร์ดอน แรมซีย์” หนึ่งในเชฟที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
Gordon Ramsay (Richmond News)
- “กอร์ดอน แรมซีย์” เด็กชายผู้ใฝ่ฝันอยากเป็น “นักฟุตบอล”
ครอบครัวของ “กอร์ดอน แรมซีย์” ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรมากนัก เป็นครอบครัวธรรมดาทั่วไปในสกอตแลนด์ พ่อของเขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป แม่ของเขาเป็นพยาบาล ตัวเขาเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 1966 หลังจากนั้นครอบครัวก็ย้ายไปอังกฤษ เพื่อมองหาความมั่นคงให้ครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก ทำให้ช่วงชีวิตในวัยเด็กต้องเดินทางอยู่หลายครั้ง
แม้ว่าเขาจะเกิดมาในครอบครัวธรรมดา แต่เขาก็มีความฝันที่ไม่ธรรมดา เพราะเด็กชายกอร์ดอนชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก และพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ หลังจากนั้นความพยายามของเขาก็เริ่มเข้าใกล้คำว่า “ประสบความสำเร็จ” เมื่อเขาผ่านการทดสอบจากสโมสรใหญ่ในสกอตแลนด์และได้ลงเล่นในทีมเยาวชนของ Rangers
Gordon Ramsay (คนซ้ายสุด แถวกลาง) และเพื่อมร่วมทีม Rangers (Vogue)
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในระหว่างการฝึกซ้อมกอร์ดอนเกิดบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ส่งผลให้เขาไปไม่ถึงฝั่งฝันในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล และกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเวลาต่อมา
- การทำอาหารไม่ใช่ความฝัน แต่กลับทำให้ประสบความสำเร็จสูงสุด
หลังจาก กอร์ดอน แรมซีย์ ต้องอกหักจากวงการฟุตบอลไป แต่ “การทำอาหาร” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เขาให้ความสนใจ แต่ก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะนำไปต่อยอดเพื่อประกอบอาชีพในอนาคต
ต่อมากอร์ดอนในวัย 19 ปี เริ่มหันมาศึกษาการทำอาหารอย่างจริงจัง โดยลงเรียนที่ North Oxfordshire Technical College ในสาขาการบริหารงานโรงแรม และหลังจากนั้นเขาก็มีโอกาสได้ฝึกงานตามร้านอาหารในอังกฤษ ก่อนจะได้เข้าทำงานในร้านอาหารชื่อดัง “Harveys” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในชีวิต และเคยทำให้เขาเสียน้ำตาจากร้านนี้มาแล้ว
ร้าน Harveys เป็นร้านอาหารของเชฟฝีมือระดับเทพ มาร์โก ปิแอร์ ไวท์ (Marco Pierre White) ซึ่งกอร์ดอนใช้เวลาฝึกฝนเรียนรู้อยู่กับมาร์โกเกือบ 3 ปี แม้ว่าเขาจะได้รับความรู้และประสบการณ์หายากมากมายจากมาร์โก แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนสาหัสสำหรับเขาเช่นกัน เพราะมาร์โกมีวิธีการสอนที่จริงจัง มีระเบียบ และใช้ไม้แข็งอยู่เสมอ โดยมาร์โกเองก็เคยเขียนไว้ในหนังสือของเขาตอนหนึ่งว่า “กอร์ดอนถึงกับไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงมุมห้อง”
Marco Pierre White (The Daily Meal)
แม้ว่าการใช้เวลาฝึกฝนอยู่ที่ร้าน Harveys กับมาร์โกจะมีความโหดหินพอสมควร แต่นั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กอร์ดอนประสบความสำเร็จในชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งในฐานะเชฟอาชีพที่มีร้านอาหารเป็นของตัวเอง และผู้ดำเนินรายการทำอาหารชื่อดัง
- เมื่อเจ้าพ่อ “ดาวมิชลิน” เตรียมประเดิมสาขาในไทย
หนึ่งในเครื่องการันตีฝีมือสำหรับวงการอาหารก็คือ “ดาวมิชลิน” หรือ Michelin stars ที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลสูงสุดของสายอาชีพเชฟ เพราะเป็นตัวชี้วัดมาตรฐานระดับสากลที่มอบให้กับร้านอาหารระดับโลก และการที่จะได้รับดาวมิชลินมาครอบครองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีความเป็นเลิศในเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการทำอาหาร ไปจนถึงความสะอาด บรรยากาศ และการบริการภายในร้าน ดังนั้นหากร้านไหนมีดาวมิชลินการันตีย่อมหมายความว่าเป็นร้านอาหารที่มีมาตรฐานในระดับสูง
สำหรับประเภทของดาวมิชลินนั้น ในหนังสือ Michelin Guide Book อธิบายไว้เบื้องต้นดังนี้
1 ดาว หมายถึง ร้านอาหารคุณภาพสูง ที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
2 ดาว หมายถึง ร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
3 ดาว หมายถึง สุดยอดร้านอาหาร ที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
โดยพิจารณาจากภาพรวมของร้าน ได้แก่ คุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, ลักษณะเฉพาะของอาหาร ความเหมาะสมคุ้มราคา และความคงที่ของรสชาติ
ในส่วนของ กอร์ดอน แรมซีย์ นั้น ก่อตั้งร้านอาหารเป็นของตัวเองเมื่ออายุเพียง 35 ปี ในชื่อ “Restaurant Gordon Ramsay” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1998 และใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็สามารถคว้าดาวมิชลิน 3 ดวงมาครองได้สำเร็จ และยังรักษามาตรฐานเอาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน (ร้านอาหารสามารถถูกยึดดาวคืนได้หากคุณภาพแย่ลง) หลังจากนั้นร้าน Pétrus ซึ่งเป็นร้านอาหารของเขาอีกแห่งก็ได้รับดาวมิชลินเช่นกัน
Restaurant Gordon Ramsay แห่งแรก ณ กรุงลอนดอน
ไม่ใช่แค่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้นแต่คุณภาพร้านอาหารของเขาที่เปิดในฝรั่งเศสก็ได้รับดาวมิชลินด้วย โดยกอร์ดอนได้ดาวมิชลิน 2 ดวง จากร้าน Pressoir d'Argent และอีก 1 ดวงจากร้าน Gordon Ramsay au Trianon
ด้วยความที่เป็นเชฟมากฝีมือพร้อมมีรางวัลการันตีมากมาย ทำให้กอร์ดอนเปิดร้านอาหารไปหลายประเทศทั่วโลก และแน่นอนว่าร้านของเขาประสบความสำเร็จทั้งหมด ตั้งแต่สิงคโปร์ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา เพราะแค่ในลาสเวกัสก็มีร้านของเขาอยู่ถึง 5 ร้าน
นอกจากนี้กอร์ดอนยังประสบความสำเร็จจากรายการโทรทัศน์ทั้งในอเมริกาและต่างประเทศ มีรายการที่เรตติ้งสูงสุดของฟ็อกซ์หลายรายการด้วยกัน ได้แก่ HELL'S KITCHEN, MASTERCHEF, MASTERCHEF JR., 24 HOURS TO HELL & BACK, GORDON RAMSAY: UNCHARTED และ THE F-WORD โดยรายการเหล่านี้ออกฉายไปกว่า 200 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย
ภาพโปรโมตรายการ HELL'S KITCHEN (TV Insider)
แม้หลายคนจะมองว่ากอร์ดอนประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตแล้ว แต่เขายังไม่หยุดแค่นั้น เพราะล่าสุดเขาเตรียมเปิดร้านอาหารของเขาเพิ่มอีก แต่คราวนี้มาปักหมุดที่ประเทศไทย รวมทั้งหมด 14 ร้าน โดยเริ่มจาก “Bread Street Kitchen” ร้านอาหารที่มาในรูปแบบแคชวลไดนิ่ง และ “Street Pizza” ที่มีความหลากหลายของหน้าพิซซาเป็นจุดเด่น
ร้านอาหารสองแห่งแรกในไทยของกอร์ดอนจะอยู่ที่ศูนย์การค้า “Emsphere” ย่านพร้อมพงศ์ มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับเครือ TAN ที่เป็นบริษัทแม่ของ Harnn และ Marimekko ประเทศไทย โดยหลังจากนี้กอร์ดอนยังมีแผนจะเปิดร้านเพิ่มในไทยอีก 12 แห่งด้วยกัน
“ความร่วมมือครั้งใหม่กับกลุ่ม TAN จะเติบโตไปทั่วโลก พร้อมกับการนำเสนออาหารและประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ” Andy Wenlock ซีอีโอของ Restaurant Gordon Ramsay กล่าว
การเปิดร้านอาหารในประเทศไทยของ “กอร์ดอน แรมซีย์” ในครั้งนี้ ไม่ได้ต้อนรับเฉพาะแฟนคลับชาวไทยของเขาเท่านั้น แต่จะกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักชิมจากทั่วโลกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยไปในตัวก็คงไม่ผิดนัก น่าจับตามองว่าร้านอาหารอีก 12 แห่งของกอร์ดอนที่กำลังจะเปิดตัวในเมืองไทย จะมีลักษณะแบบไหน มีอะไรเป็นจุดเด่น และที่สำคัญจะตั้งอยู่ตรงส่วนไหนของประเทศไทยบ้าง และร้านอาหารสองร้านแรกในไทยของเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน เหล่า Foodie สายกินต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิงข้อมูล : Gordon Ramsay, RLI, Vogue, Hello และ วิทยาลัยดุสิตธานี