‘Nvidia’ ขยาย ‘New S-Curve’ พัฒนา AI เร่งสปีดคิดค้นยา และช่วยในการผ่าตัด

หลายคนอาจมองว่า ราคาของ “Nvidia” (อินวิเดีย) บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิกสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายนี้แพงไป และสะท้อนการเติบโตทั้งโลกไปแล้วหรือไม่ หลังจากราคาขึ้นมาเกือบ 100% นับตั้งแต่ต้นปี 2567

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัท Nvidia สร้าง S-Curve ใหม่ด้วยการรุก “ธุรกิจการแพทย์” หลังจากที่ผ่านมาเน้นลูกค้ากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ นี่อาจเป็น “เชื้อเพลิงใหม่” ในการขยายการเติบโตต่อไปอีกก็เป็นได้

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Nvidia ประกาศดีลกับบริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐชื่อดังอย่าง Johnson & Johnson เพื่อใช้ AI ในการผ่าตัด และร่วมมือกับ GE Healthcare บริษัทผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ เพื่อจำลองรูปถ่ายอวัยวะภายในให้เห็นชัดมากขึ้น ก่อนวางแผนรักษาหรือทำการผ่าตัด

ราจ โจชิ (Raj Joshi) นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี และรองประธานบริษัท Moody’s Ratings มองว่า เหตุผลที่ Nvidia เป็นที่นิยมในทุกวันนี้ก็เพราะมีเทคโนโลยีซึ่งคล้ายกับโครงสร้างพื้นฐานอย่าง “ท่อประปา” ซึ่งช่วยลดระยะเวลา ค่าใช้จ่าย และต้นทุนของบริษัทลง โดยเทคโนโลยีชีวภาพ เคมี และการคิดค้นยาที่บริษัทขยายธุรกิจเข้าไป ถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพมหาศาล

สำหรับ “การพัฒนายา” นั้น ถือเป็นกระบวนการที่เสี่ยง เพราะใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีในการพัฒนาจากส่วนแนวคิดไปสู่การทดลองทางคลินิก รวมถึงใช้เงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์และมีโอกาสล้มเหลวสูง

การเข้ามาของ AI จะช่วยให้กระบวนการดังกล่าวหดสั้นลง และสามารถสร้างแบบจำลอง เพื่อนำสูตรยาที่เคยล้มเหลวมาทดลองซ้ำในหลากหลายสูตรในจำนวนนับไม่ถ้วน ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงมาก

โคเลทท์ เครสส์ (Colette Kress) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท Nvidia แสดงความเห็นว่า “ในด้านธุรกิจดูแลสุขภาพ ชีววิทยาทางดิจิทัลและ AI กำลังช่วยคิดค้นยา ผ่าตัด จำลองรูปภาพทางการแพทย์ และบรรจุในอุปกรณ์สวมใส่ทางสุขภาพด้วย พวกเราได้สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาตลอด 10 ปี ด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม NVIDIA Clara Healthcare และบริการ AI NVIDIA BioNeMo ที่จะมาช่วยพัฒนา ปรับแต่ง และรันโมเดล AI คิดค้นยาบนคอมพิวเตอร์”

เมื่อปีที่แล้ว Nvidia ได้ลงทุนเงิน 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,800 ล้านบาทใน Recursion Pharmaceuticals บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อนำข้อมูลทางร่างกายและข้อมูลเคมีในมนุษย์มาใช้ฝึกโมเดล AI ของบริษัทบนแพลตฟอร์มคลาวด์ อีกทั้งบริษัทได้ทำงานร่วมกับ Genentech ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเช่นกัน ในการพัฒนายา และโปรโตคอลรักษาโรค 

อ้างอิง: cnbc