6 เดือน  พาณิชย์ ปราบ นอมินี-สินค้าห่วย เสียหาย  กว่า 1.6 หมื่นล้าน

การประชุม"คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย" โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 17 หน่วยงานร่วมประชุม ด้วย เมื่อวันที่ 13 เม.ย.68  ถือเป็นครั้งที่ 3 (1/2568)ที่คณะกรรมการชุดใหญ่ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามนอมินีและสกัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าไทย

โดยผลการดำเนินการล่าสุด ตั้งแต่เดือน ก.ย.67-ก.พ.68 หรือ  6 เดือน  โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาสินค้านำเข้าไม่ได้มีคุณภาพมาตรฐาน มีการดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น  24,626 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,257 ล้านบาท แบ่งเป็น กรมศุลกากร จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % สำหรับสินค้านำเข้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท มูลค่า 1,500 ล้านบาท ตรวจสอบเปิดตู้สินค้า 20% เป็น 30 % ดำเนินคดี 23,804 ราย มูลค่าความเสียหาย 808 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบสถานประกอบการ เก็บตัวอย่างเฝ้าระวังคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์สุขภาพนำเข้า พบกระทำผิด 6,507 รายการ สถานประกอบการ 36 แห่ง

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตรวจสอบสินค้าตามมาตรฐานบังคับอุตสาหกรรม ดำเนินคดี 135 คดี มูลค่าความเสียหาย 122.45 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบสินค้าตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พบกระทำความผิด 317 คดี มูลค่าความเสียหาย 29.07 ล้านบาท

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจสอบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา พบกระทำผิด 370 คดี มูลค่าความเสียหาย 297.72 ล้านบาท

ขณะที่การนำเข้าสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ  พบว่า ช่วง ก.ค.-ธ.ค.67 การนำเข้าลดลง 7.29  % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 66

ส่วนผลการดำเนินการปราบปรามนอมินีและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนอมินี ตั้งแต่ 1 ก.ย.67-28ก.พ.68 พบว่า มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 851 คดี มูลค่าความเสียหาย 15,121,766,758 บาท แยกเป็นประเภท

ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวข้อง 106 คดี มูลค่าความเสียหาย 602,402,939 บาท

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง 244 คดี มูลค่าความเสียหาย 11,498,757,858 บาท

ธุรกิจขนส่งทางบก 11 คดี มูลค่าความเสียหาย 32,400,000 บาท

ธุรกิจอื่นๆ 490 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,988,205,595 บาท  หาก

รวมมูลค่าความเสียหายจากปัญหานอมินีและสินค้าไร้คุณภาพ มีมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท

ส่วนธุรกิจซื้อขายที่ดินเพื่อการเกษตร ที่กำลังเป็นปัญหา  โดยเฉพาะ “นอมินีทุนจีน" ปลูกทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทยนั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการฯกำลังดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งข้อมูลนิติบุคคล 462 ราย เพื่อตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดิน เบื้องต้น พบว่า นิติบุคคล 11  รายถือครองที่ดินในพื้นที่อ.เมืองจันทบุรี

โดยใน  11 ราย ประกอบธุรกิจขายส่งผักและผลไม้ 3 ราย มีคนจีนร่วมถือหุ้น ประกอบธุรกิจอื่นๆ เช่น ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และโรงแรมรีสอร์ท 8 ราย ซึ่งทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนต่อไป ส่วนนิติบุคคลที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

ทั้งนี้คณะกรรมการฯได้ตั้ง ‘คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย’ ขึ้น เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบธุุรกิจนอมินีและสินค้าที่ไม่มีคุณภาพร่วมกัน และเตรียมตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจเพื่อร่วมกันสืบสวน สอบสวน จับกุม และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในพื้นที่ทั่วประเทศ

โดยภาพรวมการการทำงานของคณะกรรมการ ฯมีความคืบหน้าไปพอสมควรแม้ว่า ยังไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมดก็ตาม   ล่าสุดดึงสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเข้ามาร่วมทำงานด้วย เพื่อใช้อำนาจตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าในการแก้ไขปัญหาการทะลักของสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ซึ่งถือได้ว่า เป็นอีกกลไกหนึ่งในการสกัดสินค้าไร้คุณภาพ และป้องกันการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย