ยูโอบีคาดปิดดีลซื้อไอเอ็นจีNAVติดท็อป6

ยูโอบีคาดปิดดีลซื้อไอเอ็นจีNAVติดท็อป6

บลจ.ยูโอบีคาดบลจ.ยูโอบี (สิงคโปร์) ซื้อบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) แล้วเสร็จครึ่งแรกปีนี้ ดันเอ็นเอวีติดท็อป 6 วาดฝันขยับขึ้นอันดับ5

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัดเปิดเผยถึงการที่บลจ.ยูโอบี (สิงคโปร์) ที่เข้าไปทำสัญญาจะซื้อบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจาก 3 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของ 3 ประเทศอยู่ คือ สิงคโปร์ ,เนเธอร์แลนด์ และไทย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 นี้ ซึ่งจะทำให้กลุ่มยูโอบีมีธุรกิจกองทุนในไทยมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท ขยับขึ้นเป็นอันดับ 6 ของอุตสาหกรรมกองทุน และกลุ่มยูโอบีมีเป้าหมายที่จะขยับขึ้นติด 1 ใน 5 ให้ได้ในอนาคต

ในส่วนของแนวทางการดำเนินธุรกิจกองทุนของกลุ่มยูโอบีในไทยก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการรวม 2 บลจ.เข้าด้วยกัน แต่ทั้งนี้คงต้องรอทางกลุ่มยูโอบี (สิงคโปร์) หาข้อสรุปในเรื่องนี้ออกมาอีกครั้งหลังขั้นตอนในการซื้อบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เสร็จเรียบร้อยแล้วอีกครั้ง

"หากมองการควบรวม 2 บลจ. ก็ถือมีโอกาสเป็นไปได้และเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักลงทุนไทยเองด้วย เพราะ 2 บลจ.มีจุดเด่นที่แตกต่าง ในขณะที่บลจ.ยูโอบี (ไทย) มีฐานลูกค้ากองทุนรวมซึ่งเป็นรายย่อยข้นข้างมาก แต่บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจุดแข็งในฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแนวทางการควบรวมจึงน่าจะได้ประโยชน์ทุกฝ่ายมากกว่า และจะทำให้พอร์ตของกลุ่มยูโอบีมีความสมดุลและมีความหลากหลายมากขึ้นด้วย ทางกลุ่มยูโอบีให้ความสำคัญกับตลาดไทยมากและยังต้องการขยายธุรกิจในไทยจึงไม่มีนโยบายลดคนแต่ประการใดหากมีการควบรวมจริง ยังต้องการคนมาช่วยในการขยายตลาดอยู่เช่นกัน"

โดยในปี 2555บริษัทมีการเติบโตที่ดีโดยมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 79,677.25 ล้านบาท จากสิ้นปี54 ที่ 65,744.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.19% โดยเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจกองทุนรวมมีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 60,182.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.48% ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 10,102.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.55%

ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 6,537.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.85% และธุรกิจกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,854.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 411.95% โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่ม AUM ของบริษัทขึ้นประมาณ 31% หรือมีสินทรัพย์แตะระดับ 100,000 ล้านบาท