PRIN - ซื้อ
คาดกำไรปี 55 เติบโตสูง 64%YOY และโตต่อเนื่อง 13% ในปี 56
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 ลดลง 11%: บริษัทยังประสบปัญหาในการก่อสร้างล่าช้าอย่างต่อเนื่องตลอดปีทำให้ยอดโอนในช่วง 4Q55 ลดลง 17%YOY และ 3%QOQ เหลือ 664 ล้านบาท ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรต้นราว 33% ซึ่งลดลงจาก 34% ใน 3Q55 ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิในช่วง 4Q55 ราว 60 ล้านบาทลดลง 49%YOY และ 14%QOQ ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการรายได้ปี 55 ลดลง 3% เหลือ 2,771 ล้านบาท ซึ่งทำให้กำไรสุทธิลดลง 11% เหลือ 334 ล้านบาทแต่ยังเติบโตได้ดี 26% และ 64%ตามลำดับจากฐานที่ต่ำมากในปี 54
คาดกำไรสุทธิปี 56 เติบโต 13%YOY : ยอดขาย PRESALE ปี 55 ทำได้ตามเป้า ยอดขาย PRESALE ในช่วง 4Q55 ทำได้ 965 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 150%YOY และ 22%QOQ รวมทั้งปี 55 ทำได้ 3,270 ล้านบาทใกล้เคียงกับเป้าของผู้บริษัท ส่งผลให้มียอดขายรอโอน (BACKLOG) เมื่อปลายปี 55 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นยอดขายโครงการแนวราบซึ่งน่าจะโอนได้เกือบหมดภายในปีนี้ สำหรับประมาณการปี 56 ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ 2,907 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5%จากประมาณการปี 55 ซึ่งถือว่าอนุรักษนิยมเมื่อเทียบกับเป้าของผู้บริหารที่ 3,300 ล้านบาท และคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตอีก 13% เป็น 378 ล้านบาท
แผนปี 56 ตั้งเป้ายอดขาย PRESALE และรายได้ 3.3 พันล้านบาท : ปี 56 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขาย PRESALE ที่ 3.3 พันล้านบาทโดยมีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ 7 โครงการมูลค่ารวม 6 พันล้านบาทแบ่งเป็นโครงการแนวราบที่เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 6 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยเมื่อต้นปีได้เพิ่งเปิดขายคอนโดมิเนียม “BRIDGE” นราธิวาสซึ่งเป็นโครงการขนาดเล็กมีจำนวนหน่วยเพียง 91 ยูนิตและคาดจะโอนได้ภายในปีนี้
ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 2.80 บาทสำหรับปี 56 : ราคาปิดล่าสุดซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า BV โดยซื้อขายที่ 0.8 เท่า ขณะที่หุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยซื้อขายที่ระดับ P/BV 2 เท่า ขณะที่ราคาเหมาะสมซึ่งอิง PROSPECT PER ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นตามหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยจากเดิมที่ระดับ 6 เท่าเป็น 9 เท่า (ค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 20 เท่า) อยู่ที่ 2.80 บาท (เดิม 2 บาท) โดยยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”