บีอีเอสเชื่อรัฐบาลใหม่ดันเอ็กซิบิชั่นฟื้น
บีอีเอส เชื่อธุรกิจเอ็กซิบิชั่นฟื้นหลังการเมืองนิ่ง คาดปีหน้าได้แรงหนุน เออีซี ดันตลาดโต10%
นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไปบริษัท แบงค็อก เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจการแสดงสินค้า (เอ็กซิบิชั่น) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะนักธุรกิจเริ่มเข้าใจว่าแม้ว่าจะอยู่ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึกแต่ในทางปฏิบัติไม่มีการบังคับใช้กฎหมายจนเกิดเป็นความรุนแรง เหมือนกับบางประเทศ ดังนั้นการจัดงานโปรแพ็ค เอเชีย 2014 ในเดือนที่ผ่านมาจึงยังมีผู้เข้าร่วมชมงานเพิ่มขึ้น 5% เป็น 3.6 หมื่นคน แม้จะไม่สูงเท่าที่คาดการณ์ไว้แต่เดิม เนื่องจากบางประเทศยังมีแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาไทยหากไม่มีความจำเป็น เช่น สหรัฐ สิงคโปร์ และอิตาลี
นอกจากนี้ในปี 2558 จะมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และไทยจะมีเสถียรภาพการเมืองมากขึ้นเพราะมีรัฐบาลรักษาการเข้ามาบริหารงานเต็มตัวและต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี ดังนั้น คาดว่างานโปรแพ็คในเดือน มิ.ย.ปีหน้ามีโอกาสขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% และหากรวมงานเอ็กซิบิชั่นภายใต้บริษัทบีอีเอสอีก 1 งานได้แก่ ฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ คาดว่าจะมีการขยายตัวรวม 5-15%
นอกจากนี้ไทยยังคงมีศักยภาพในด้านการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ในด้านเป็นการนำสินค้าเข้าและส่งออกต่อไปยังเพื่อนบ้าน (Re-export Hub) เพราะมีกฎหมายเรื่องการจัดเก็บภาษีที่เป็นระบบและระเบียบชัดเจนเมื่อเทียบกับหลายประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายนี้ ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมหลักของประเทศทุกหมวดหมู่ อาทิ ด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล, เครื่องยนต์, เกษตรกรรมและปศุสัตว์, พลังงาน ฯลฯ ต่างก็มีบริษัทจัดงานแสดงสินค้ารายใหญ่ที่เป็นเจ้าของโปรไฟล์งานเทรดโชว์ระดับนานาชาติที่ติดตลาดและขยายใหญ่ทุกปี เพื่อตอบสนองต่อผู้ผลิตจากนานาชาติที่เห็นศักยภาพกำลังซื้อภายในประเทศไทยและต้องการเข้ามาหาเวทีจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการคาดการณ์ว่าจีดีพีปีหน้ามีโอกาสเติบโตได้ 4%
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า แม้สถานการณ์จะฟื้นตัว แต่อาจจะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือดีเท่ากับปี 2555-2556 ซึ่งเป็นขาขึ้นเพราะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) อาจชะลอตัวบ้าง จากการรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจนในไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) คาดการณ์ว่าในปี 2557 ธุรกิจเอ็กซิบิชั่นในไทยมีต่างชาติเดินทางเข้ามา 163,398 คน ลดลงจากปีก่อนซึ่งมีจำนวน 191,319 คน โดยทำรายได้ราว 13,075 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 14,524 ล้านบาท