8โรงแรม5ดาวริมน้ำบูมตลาด'ไมซ์'
การลงทุนของธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท
นับเป็นการขยายการลงทุนสูงสุดในรอบ 30 ปี ปูทาง "การท่องเที่ยวริมน้ำ" เติบโต 5 เท่า ใน 3-5 ปีข้างหน้า เป็นจังหวะให้กลุ่มโรงแรม 5 ดาว 8 แห่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผนึกกำลังสร้างพลังแห่งเครือข่ายประกาศก้าวรรุก "ตลาดไมซ์" จริงจัง โดยเสนอตัวดึงงานประชุมนานาชาติขนาดใหญ่สู่เวทีประเทศไทย
เดชา ตั้งสิน รองประธานกรรมการโรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา ฝ่ายต่างประเทศและกรรมการ สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า โรงแรม 8 แห่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมตัวกันในนาม "กลุ่มพันธมิตรการตลาดโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา (บีอาร์เอ็มพี)" เตรียมจัดกิจกรรมการตลาด 4 รูปแบบ ร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยวในโซนเจริญกรุงและเจริญนคร ที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง
โดยเฉพาะปี 2558 ที่มีการลงทุนคึกคักมากสุดในรอบ 30 ปี จากโครงการของภาคเอกชนรวมมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท อาทิ ไอคอนสยาม มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท โครงการขยายเอเชียทีค เพิ่มโรงแรมและห้องจัดเลี้ยง เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4 ปี 2559 โครงการโฟร์ซีซันส์ ไพรเวท เรสซิเดนส์ ที่มีโรงแรมกว่า 312 ห้อง และเรสซิเดนซ์ 355 ยูนิต
ประเมินว่าภายใน 3-5 ปี ข้างหน้านักท่องเที่ยวในย่านนี้จะเติบโต 5 เท่า จากปกติมีจำนวน 6 หมื่นคนต่อวัน โดยมี "ที่พักและแหล่งท่องเที่ยว" เป็นแม่เหล็กดึงดูดตลาดไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ใน 3 ปี ตลาดคนไทยจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% และต่างชาติราว 30% ซึ่งในส่วนของต่างชาติ ได้ลูกค้าจากเอเชียเข้ามาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก อาทิ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย สอดคล้องกับกิจกรรม "ชอปปิง" ที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งการค้าในย่านนี้ ทั้งเอเชียทีค ตลาดยอดพิมาน และไอคอนสยาม
“การลงทุนขณะนี้มีมูลค่ามากสุด นับจาก 30 ปีก่อนที่มีการลงทุนครั้งใหญ่ของโรงแรมริมเจ้าพระยารุ่นที่ 2 ต่อจากแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่เป็นรุ่นแรก โดยช่วงนั้นมี 3 โรงแรม คือ แม่น้ำ รอยัล ออร์คิดฯ และแชงกรีล่า ที่เปิดบริการไล่เลี่ยกัน"
ทั้งนี้ 8 โรงแรมริมแม่น้ำฝั่งเจริญกรุง-เจริญนคร มีจำนวนรวม 4,152 ห้อง คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% จากจำนวนห้องพักทั้งหมด 7,000 ห้องในย่านดังกล่าว ประกอบด้วย แมนดาริน โอเรียนเต็ล 393 ห้อง, แม่น้ำ รามาดาพลาซา 525 ห้อง, แชงกรีล่า 802 ห้อง, รอยัล ออร์คิด เชอราตัน 726 ห้อง, อนันตรา ริเวอร์ไซด์ 407 ห้อง, เดอะ เพนนินซูล่า 370 ห้อง, มิลเลนเนียม ฮิลตัน 533 ห้อง และ ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ 396 ห้อง
ภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจครั้งนี้ เตรียมใช้จุดแข็งการมีห้องพักเจาะกลุ่มตลาดระดับ 5 ดาว ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ "จัดงานประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ" ด้วยความพร้อมของห้องพัก ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มีสถานที่จัดประชุมได้มาตรฐาน อาทิ ห้องประชุมของรอยัล ออร์คิด เชอราตัน และแชงกรีล่า รองรับได้สูงสุด 1,500 คน ขณะที่กลุ่มแม่น้ำเรสซิเดนซ์ มีแผนลงทุน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งหนึ่งในโครงการดังกล่าวคือการก่อสร้างศูนย์ประชุมแม่น้ำ ฟอรั่ม รองรับได้มากกว่า 1,000 คน
"การเลือกเจาะตลาดไมซ์ เพราะประเมินว่าเป็นกลุ่มที่จะช่วยยกระดับราคาห้องพักเฉลี่ยและอัตราเข้าพักของโรงแรมได้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีผู้ติดตาม และครอบครัว ปัจจุบันราคาห้องพักของโรงแรมในกลุ่มเฉลี่ย 5,000-6,000 บาทต่อคืน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ "ต่ำ" เทียบศักยภาพของทำเลและมาตรฐานบริการ ซึ่งควรทำราคาได้สูง 1 หมื่นบาทขึ้นไป หากเทียบแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงกันในต่างประเทศ
ภายใต้แผนความร่วมมือระยะ 2 ปี คาดเพิ่มสัดส่วนตลาดไมซ์กลับมาอยู่ที่ 10% เทียบนักท่องเที่ยวทั้งหมด เนื่องจากการเสนอตัวส่วนใหญ่ต้องเตรียมการล่วงหน้า 2 ปี ในอดีตกลุ่ม 8 โรงแรมเคยมีลูกค้าไมซ์ในสัดส่วน 10% แต่ทยอย "ลดลง" อย่างมีนัยสำคัญจากปัญหาการเมือง ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจในสถานการณ์ ขณะเดียวกัน ผลกระทบการเมืองทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมเหลือราว 70% ตลอดปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มปรับตัวดีขึ้น คาดว่าปี 2558 จะกลับมาปิดยอด 85%
กลุ่มบีอาร์เอ็มพี ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ ความร่วมมือสถาบันการเงินจัดเทศกาลอาหารนานาชาติ เทศกาลไวน์ ร่วมกับ บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จัดเทศกาลดนตรีแจ๊สริมแม่น้ำ และร่วมกับกลุ่มนิตยสารและค้าปลีก จัดงานแฟชั่นตามฤดูกาล เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เนื่องจากไม่มีสะพานเชื่อมต่อระหว่าง 2 ฝั่งที่พอเพียง ลุ่มบีอาร์เอ็มพี ได้รวมตัวกันภาคประชาสังคมในฝั่งเจริญกรุง ยื่นหนังสือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ทบทวนแผนยุบสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน เนื่องจากจะกระทบต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างมาก