TTCL - ซื้อ
กำไรเติบโตโดดเด่นจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน
- กลับมาวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากแนวโน้มระยะกลางและยาวที่สดใส - สำนักวิจัยทิสโก้กลับมาทำการวิเคราะห์ TTCL อีกครั้งโดยแนะนำให้ “ซื้อ” เนื่องจาก 1) สำนักวิจัยทิสโก้คาดว่ากำไรของ TTCL จะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วง 2H15 ก่อนที่จะเติบโตถึง 174% ในปี 2016; 2) สำนักวิจัยทิสโก้คาดกำไรของ TTCL จะเติบโตเฉลี่ยที่ 23% ต่อปีในช่วง 2017-19 (3-Year earnings CAGR); 3) ยังมี Upside จากประมาณการกำไรของสำนักวิจัยทิสโก้อีกมากหาก TTCL ได้ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1280MW ที่เมียนมาร์; และ 4) ราคาหุ้นยังไม่แพงและยังมี Upside ถึง 53% จากราคาเป้าหมายของสำนักวิจัยทิสโก้ที่ 34 บาท
- งานในมือมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บวกงานที่มีโอกาสชนะสูงอีกเป็นจำนวนมาก - ปัจจุบัน TTCL มีงานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอรับรู้รายได้ไปอีก 3 ปี นอกจากนั้นบริษัทยังอยู่ระหว่างประมูลงานอีก 13 โครงการมูลค่ารวม 6.4 หมื่นล้านบาท (ในอดีตบริษัทชนะประมูลประมาณ 1 ใน 3) โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะชนะงานใหม่มูลค่า 800-1,000 ล้านเหรียญ/ปี นอกจากงานที่เพิ่มขึ้นแล้วอัตรากำไรยังมีแนวโน้มดีขึ้นด้วยเนื่องจากงานมาร์จิ้นต่ำเกือบเสร็จสิ้นแล้วใน 2Q15 อีกทั้งโรงไฟฟ้า Ahlone เริ่มเดินเครื่อง Full Combined Cycle แล้วในเดือนมิ.ย.
- คาดกำไรจะเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บวก Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน - สำนักวิจัยทิสโก้คาดว่ากำไรของบริษัทจะค่อยๆ ฟื้นตัวใน 2H15 เนื่องจากงาน margin ต่ำเกือบเสร็จแล้วและรายได้จากโรงไฟฟ้า Ahlone จะเพิ่มขึ้นหลังเดินเครื่อง Full Cycle แล้วในเดือนมิ.ย. แม้กำไรในปีนี้จะต่ำแต่สำนักวิจัยทิสโก้คาดว่ากำไรจะกลับมาโตถึง 174% ในปี 2016 และโตต่อเนื่องเฉลี่ย 23% ต่อปีในช่วง 2017-19 นอกจากนั้นยังมี Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1280MW ซึ่งหากได้ทำจริงๆ มูลค่างานในมือจะแตะ 1 แสนล้านบาทในปี 2017 และจะทำให้รายได้ก่อสร้างเพิ่มอีก 5.9 พันล้านบาท ถึง 1.1 หมื่นล้านบาท/ปีในช่วงปี 2016-20 และ TTCL ยังจะได้รับส่วนแบ่งกำไรปีละประมาณ 900 ล้านบาทตลอดระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป (Assume ถือหุ้น 30%)
- แนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 34 บาท - สำนักวิจัยทิสโก้ประเมินมูลค่าหุ้น TTCL ไว้ที่ 34 บาท/หุ้น โดยมาจากวิธี Sum-of-parts valuation โดยสำนักวิจัยทิสโก้ประเมินมูลค่าของบริษัทในปัจจุบันด้วย PER ปี 2016 ที่ 21 เท่าซึ่งมาจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น ได้มูลค่าอยู่ที่ 24.63 บาท/หุ้น รวมกับมูลค่าที่เหมาะสมของโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1280MW อีก 9.63 บาท/หุ้น ซึ่งได้จากวิธี DCF โดยมีสมมติฐานว่า TTCL ถือหุ้น 30% ความเสี่ยงหลักของบริษัทคือ หากเศรษฐกิจโลกหรือราคาน้ำมันลดต่ำลงมากกว่าที่คาดทำให้บริษัทได้รับงานใหม่น้อยกว่าที่คาด, งานก่อสร้างล่าช้าและต้นทุนการก่อสร้างที่บานปลาย