วอนไทยแกนนำดันมาตรฐานล้อยางอาเซียนหนุนส่งออก

สมาคมยางรถยนต์ แนะกระทรวงอุตฯ เร่งผลักดันมาตรฐานล้อยางอาเซียน ลดอุปสรรคการส่งออก คาดปีนี้โต 5% มูลค่ากว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์
นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ ประธานด้านยุทธศาสตร์และนโยบาย สมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ประเทศผู้นำเข้าล้อยางจากไทยต่างกำหนดมาตรฐานล้อยางที่แตกต่างกัน ทำให้เป็นอุปสรรคที่สำคัญในการส่งออกล้อยาง โดยเฉพาะในอาเซียน ที่การเจรจากำหนดมาตรฐานล้อยางให้เป็นมาตรฐานเดียวกันก็ยังเดินหน้าอย่างล่าข้า จึงอยากให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งผลักดันในเรื่องนี้
“ผู้ประกอบการมีความกังวลถึงเรื่องอุปสรรคด้านการค้าของแต่ละประเทศ ที่ถูกมาตรการกีดกันทางการค้าในเรื่องการกำหนดมาตรฐานสินค้า ซึ่งสมาคมฯ ต้องการให้ประเทศไทยแสดงบทบาทความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมยางล้อ ในการผลักดันการแก้ไขปัญหาและกำหนดยุทธศาสตร์ในเวทีอาเซียน เพื่อกำหนดให้เกิดมาตรฐานยางล้อเดียวทั้งอาเซียน”
โดยในปัจจุบันสมาคมฯ มีความต้องการใช้ยางพาราประมาณ 4 แสนตันต่อปี เพื่อผลิตยางล้อจำหน่ายในประเทศประมาณ 20 ล้านเส้น คิดเป็น 30% และส่งออกทั้งประเทศที่มีประมาณ 60 - 70 ล้านเส้น ซึ่งภาพรวมการส่งออกในปีนี้ปรับตัวดีขึ้น โดยการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 5% และคาดว่าภาพรวมทั้งปีจะเติบโตที่ 5% โดยในปัจจุบันอันดับการส่งออกล้อยางของไทยปรับตัวดีขึ้นมาอยู่อับดับที่ 5 ของโลก รองจากจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และ เยอรมนี ขณะที่เกาหลีใต้ลดลงจากอันดับที่ 5 มาอยู่ที่อันดับที่ 6
นายณัฐพล รังสิตพล รองเลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ผู้ผลิตล้อยางมีความกังวลในเรื่องที่ สมอ. ได้ประการมาตรฐานบังคับในสินค้ายางเรเดียนรถยนต์นั่ง รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ จากเดิมที่ไม่มีมาตรฐานยางเหล่านี้ ทำให้ในอีก 2 ปีข้างหน้ายางเรเดียนที่ผลิตจะต้องมีมาตรฐาน มอก. บังคับ ผู้ผลิตจึงมีความเป็นห่วงในเรื่องของการส่งออกยางไปประเทศอื่นที่มีมาตรฐานต่างจากไทย ซึ่งในเรื่องนี้ได้ชี้แจงว่าจะไม่กระทบการส่งออก เพียงแต่การส่งออกในแต่ละครั้งจะต้องมาแจ้งให้กับ สมอ. ว่าจะมีการผลิตยางในมาตรฐานอื่น ก็จะอนุญาตให้ส่งออกได้ตามปกติ
โดยในปัจจุบันไทยส่งออกล้อยางมีมูลค่า 6,640 ล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยส่งไปประเทศสหรัฐฯมากที่สุด 27.4% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกมาก เนื่องจากจีนถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีทุ่มตลาด ทำให้หันมาซื้อล้อยางจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นประเทศญี่ปุ่นมีสัดส่วน 6.3% ขณะที่อาเซียนประเทศที่นำเข้าล้อยางจากไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย 5% และเวียดนาม 5% แต่ทั้งนี้มาตรฐาน มอก.บังคับของไทยยึดตามาตรฐานของยุโรป ดังนั้นสินค้าส่งออกส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้มาตรฐาน มอก.
ส่วนอาเซียนยังยึดมาตรฐานที่หลากหลายของสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้เกิดอุปสรรคในการผลิตที่ต้องทำหลายมาตรฐาน ดังนั้นไทยจึงได้พยายามผลักดันให้มีมาตรฐานอาเซียนที่ทุกประเทศใช้เหมือนกันหมด โดยที่ผ่านมามาตรฐานล้อยางอาเซียนใกล้เสร็จแล้ว แต่มีบางประเทศที่ดึงเวลาออกไปโดยขอเพิ่มรายละเอียดต่างๆทำให้ยังไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไร