ส. ขอนแก่น’ จัดทัพธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน
ส. ขอนแก่น ดัน ‘ร้านข้าวขาหมูยูนนาน’ ขายแฟรนไชส์ ไทย-เพื่อนบ้าน พร้อมส่งตรงถึงบ้าน ‘แซ่บ คลาสก’
นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QSR บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแนวทางดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใต้แบรนด์ "ร้านข้าวขาหมูยูนนาน" และ "ร้านแซ่บ คลาสสิก" โดยร้านข้าวขาหมู ยูนนาน จะเน้นรูปแบบขยายสาขาผ่านการขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้นใจ จากเดิมบริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง
ขณะที่ร้านแซ่บ คลาสสิกจะปรับรูปแบบสาขาเน้นให้บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน หรือ Delivery โดยจะเปิดร้านต้นแบบภายใต้การให้บริการดังกล่าว ควบคู่ไปกับการขยายสาขาแฟรนส์ไชส์ในร้านรูปแบบเดิม เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าไคครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีร้านข้าวขาหมูยูนนานทั้งในไทยและต่างประเทศ รวม 35 สาขา แบ่งเป็นในประเทศไทย 32 สาขาและต่างประเทศอีก 3 สาขา ได้แก่ สปป.ลาว 2 สาขาและกัมพูชาอีก 1สาขา โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทฯ จะเปิดสาขาใหม่ในประเทศ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขาและที่ประเทศกัมพูชา อีก 2 สาขา ในรูปแบบของแฟรนไชส์ พร้อมกันนี้ ยังจะปรับร้านสาขาข้าวขาหมูยูนนานซึ่งเป็นสาขาเดิมในประเทศไทยให้เป็นรูปแบบของแฟรนไชส์เช่นกัน รวมถึงจะเพิ่มเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรายการอาหารให้มากขึ้น เช่น ติ่มซำและเมนูเกี่ยวกับผักต่าง ๆ เป็นต้น
ส่วนธุรกิจร้านแซ่บ คลาสสิกนั้น ปัจจุบันมีสาขาในไทยรวม 8 สาขา จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 4 สาขาภายในปีนี้ แบ่งเป็นแฟรนไชส์และที่บริษัทฯ ลงทุนเองอย่างละ 2 สาขา โดยในส่วนที่บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเองนั้น จะมี 1 สาขาที่จะเป็นโมเดลต้นแบบร้านที่รองรับบริการจัดส่งสินค้าอาหารถึงบ้านอย่างเต็มตัว ภายในเดือนกันยายนนี้ บริเวณย่านหลักสี่ หลังจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการสั่งซื้ออาหารแบบเดลิเวอรี่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
“การรุกขยายบริการแบบเดลิเวอรี่นั้น เนื่องจากเราพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ จึงนิยมสั่งอาหารจากนอกบ้านมาทานมากขึ้น โดยทำเลหลักสี่ถือเป็นหนึ่งในโซนที่มีคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงมั่นใจว่าการเปิดทดลองให้บริการร้านแซ่บ คลาสสิก ในรูปแบบเดลิเวอรี่สาขาแรก จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและพร้อมจะขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวต่อไปในอนาคต” นายจรัสภล กล่าว
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนนั้น มองว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีบริการแบบเดลิเวอรี่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นยังมีไม่มากนัก ซึ่งบริษัทฯ มองว่า จากแผนธุรกิจในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันยอดขายจากกลุ่มธุรกิจ QSRในปีนี้ให้มีอัตราเติบโตขึ้น 40% หรือมียอดขายประมาณ 140 ล้านบาท