‘ช่อง8’เปิดละครเวลาใหม่ขยายเวลาไพร์มไทม์

‘ช่อง8’เปิดละครเวลาใหม่ขยายเวลาไพร์มไทม์

‘ช่อง8’ ชี้ลุยปรับกลยุทธ์ส่งท้ายปี ชูละครเป็นคอนเทนท์หัวหอกดึงคนดู ลุยเปิดช่วงละครไพร์มไทม์เวลาใหม่ 18.20 น.เจาะคนกรุง-หัวเมืองดันเรทติ้ง

นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล ช่อง 8 กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจิทีวีดิจิทัลโค้งสุดท้ายปีนี้ยังคงแข่งขันรุนแรง  ผู้ประกอบการหลายรายใส่คอนเทนท์ใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนผู้ประกอบการรายใดจะจอดหรือจะรอดหรือจะไปต่อได้หรือไม่ประมาณ 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชำระค่าใบอนุญาตครบทั้งจำนวน  

โดยส่วนตัวมองว่าเรทติ้งไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จว่ารอดและไปต่อได้อย่างเดียว แต่อยู่ที่การบริหารต้นทุนควบคู่ไปกับการสร้างรายได้น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า โจทย์การทำธุรกิจยังคงแข่งขันทางด้านคอนเทนท์เป็นหลัก เพื่อดึงให้ผู้ชมใช้เวลารับชมรายการของช่องนานขึ้น เชื่อว่าปีหน้าจะเข้มข้นและดุเดือดกว่าปีนี้แน่

“แม้อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลจะเข้าสู่ปีที่ 3 แต่ยังไม่นิ่ง ธุรกิจนี้ยังอีกยาวไกลไม่ได้มองกันแค่สั้นๆ เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน ที่ตอนนี้ยังไม่ใกล้เส้นชัยจึงยังตัดสินไม่ได้ว่าใครแพ้หรือชนะ แต่ให้ดูไปยาวๆ”

สำหรับช่อง 8 ทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง โดยย้ำจุดยืนแม่เหล็กคอนเทนท์ 4 แกนหลัก ได้แก่ ละคร, กีฬา, ข่าว และวาไรตี้  โดยปัจจุบันแบ่งสัดส่วนผังรายการแบ่งเป็นละคร 40% ข่าว 25% วาไรตี้ 25% และกีฬา 10% ซึ่งนับจากนี้จะเติมคอนเทนท์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มคนเมืองและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก

ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เปิดตัว 2 คอนเทนท์ใหม่ขยายเวลาไพร์มไทม์ ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส ด้วย เปิดแนวรุกใหม่ละครช่วง “เออร์ลี่ ไพร์มไทม์ (Early Primetime)” เวลา 18.20 น. จากนั้นเสริมทัพต่อเนื่องหลังละครด้วยคอนเทนท์ประเภทวาไรตี้ใหม่ เวลา 19.05 น. ในวันเดียวกันกับรายการ Dream Song ร้องสร้างฝัน มั่นใจว่าทั้งละครเวลาใหม่ต่อเนื่องด้วยรายการวาไรตี้รูปแบบใหม่จะเป็นเวลาไพร์มไทม์ใหม่ที่สามารถเจาะกลุ่มครอบครัวที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และขยายฐานผู้ชมได้ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ยังมีคอนเทนท์ซีรีส์เกาหลีและจีนใหม่ในเวลาไพร์มไทม์ช่วง "ดิ เอทพิโซด (The 8PISODE)” เวลา 22.00 น. ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ได้แก่ Let's Fight Ghost วุ่นรักวิญญาณหลอน, Moonlight Drawn by Cloud รักเราพระจันทร์เป็นใจ, Drinking Solo รินรักหมดใจ, Legendary Warrior ศึกจอมยุทธไร้เทียมทาน, Son of Heaven เจ้าหนูจอมราชันย์

ทั้งนี้ ช่อง 8 เดินหน้ารักษาฐานกลุ่มคอกีฬาไว้ต่อเนื่อง เพราะศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคว่านิยมกีฬาประเภทใดก็พบว่า ฟุตบอล กับ มวย เป็นกีฬาที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด แต่เนื่องจากคอนเทนต์ฟุตบอลที่คนไทยให้ความนิยมส่วนใหญ่จะเป็นคอนเทนต์จากต่างประเทศ และมีค่าคอนเทนต์ที่ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่คอนเทนท์จะถูกนำไปออกอากาศในเพย์ทีวี ทำให้ช่อง 8 เล็งเห็นโอกาสของคอนเทนท์มวย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคอนเทนท์กีฬาที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ชมชาวไทยในวงกว้าง ขณะเดียวกันมีฐานผู้ชมแน่นอนและชัดเจน โดยรายการหลัก คือ “8 แม็กซ์มวยไทย” ที่มีเรทติ้งรายการมวยอันดับ 1 ในกลุ่มทีวีดิจิทัล ตามด้วย “เดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก” และ “มวยไทยแบทเทิล ศึกค่ายชนค่าย” ได้รับความนิยมและมีเรทติ้งอันดับต้นๆ เช่นกัน ดังนั้น จึงเตรียมจะเปิดช่วงไพร์มไทม์ใหม่สำหรับกีฬาเพิ่มเร็วๆ นี้

ในส่วนของกลุ่ม “รายการข่าว” ปัจจุบันครองเรทติ้งอันดับ 3 ของประเทศ  นอกจากมีการขยายเพิ่มรายการข่าวให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมในทุกช่วงเวลาตลอด 4 ช่วงหลักของวัน ได้แก่ คุยข่าวเช้า ข่าวเด่นเที่ยง คุยข่าวเย็น และข่าวเด่นรอบวัน ยังมีการดึงบุคลากรข่าวเข้ามาเสริมทีม เพื่อเพิ่มการนำเสนอให้ครอบคลุมทุกประเด็น อีกทั้งเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มรายการวาไรตี้ข่าวรูปแบบใหม่ คือ สะดุดข่าวเด็ด เวลา 22.00 น. ทุกวันเสาร์ ได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่ช่วยเพิ่มการเติบโตของเรทติ้งกลุ่มรายการข่าวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าการปรับผังใหม่ในครั้งนี้จะส่งผลให้มีเรทติ้งทะลุ 4 แสนผู้ชมต่อนาที จากปัจจุบัน 3.5 แสนผู้ชมต่อนาที ขณะที่ค่าโฆษณาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อนาทีเป็นช่วงละครตอนเย็น รวมทั้งรายการ 8 แม็กซ์มวยไทย และเดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก ทำให้เชื่อมั่นว่าจะมีรายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ 2 พันล้านบาท  โดยรายได้ทีวีคิดเป็นสัดส่วน 60% ของอาร์เอส ซึ่งปีนี้วางเป้าหมาย 4.5 พันล้านบาท