“จ๊อบไทย”เผย มนุษย์เงินดือน73%มีแผนเปลี่ยนงาน
“จ๊อบไทย”เผยผลสำรวจ 6,000 มนุษย์เงินเดือน พบ 73% มีแผนเปลี่ยนงาน เหตุผลหลัก “ไม่พอใจเงินเดือน” ต้องการความก้าวหน้า เผยเทรนด์หางานผ่านสื่อดิจิทัลมากขึ้น
จ๊อบไทยดอทคอม เว็บไซต์จัดหางานรายใหญ่ เผย “รายงานประจำปี2560 ที่มนุษย์เงินเดือนและผู้ประกอบการต้องรู้” เพื่อให้ทราบถึงผลสำรวจความคิดและแนวโน้มพฤติกรรมของคน 3 เจเนอเรชั่น ประกอบด้วย เจนX เจนY และเจนZ รวมจำนวน 6,000 กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เผยผลสำรวจว่า จากจำนวนกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ซึ่งเป็นคนที่มีงานทำแล้วสัดส่วนกว่า 69% มีแผนจะเปลี่ยนงานใหม่มากถึง 73%และอีก 27%ยังไม่มีแผนเปลี่ยนงาน
ทั้งนี้ พบว่า เหตุผล 5 อันดับแรกที่ทำให้คนต้องการหางานใหม่มาจากเหตุผลความไม่พอใจเรื่องเงินเดือนมากสุด 22.86% รองลงมา คือ ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน 19.33% ไม่พอใจสวัสดิการ 15.62% ไม่พอใจโบนัส 10.61% และอีกเหตุผล คือ มองว่างานที่ทำไม่มีความท้าทาย 9.84%ทั้งยังพบว่ากลุ่มคนเจนXยังมีเหตุผลลำดับรองลงมาที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะความไม่พอใจเรื่องวัฒนธรรมองค์กร และการเดินทางที่ไม่สะดวก
ชี้ตัวเลขว่างงานยังไม่น่าห่วง
อย่างไรก็ดี การสำรวจครั้งนี้บริษัทได้จัดทำเมื่อช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ.ที่ผ่านมา ดังนั้นตัวเลขสัดส่วนความต้องการเปลี่ยนแปลงงานใหม่จึงไม่ได้น่ากังวลมากนัก เนื่องจากเป็นไปตามวงจรการเปลี่ยนย้ายงาน หรือไซเคิลของการเปลี่ยนแปลงงานทั่วไปในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นช่วงที่คนนิยมเปลี่ยนแปลงงานใหม่กันมากที่สุด
นอกจากนี้ แม้ว่าจะมีข้อมูลจากกรมการจัดหาแรงงานที่ได้เปิดเผยตัวล่าสุดในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีอัตราการว่างงานราว 1.1% หรือกว่า 4.3 แสนราย เพิ่มขึ้นจากตัวเลขว่างงานเดิม อยู่ที่ 0.9%ออกมา แต่จ๊อบไทยฯมองว่าตัวเลขว่างงานที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ได้สะท้อนทั้งหมดว่าพวกเขาไม่มีงานทำจริงๆ แต่มีความเป็นไปได้ว่าคนกลุ่มนี้อาจลาออกไปทำงานฟรีแลนซ์ ธุรกิจส่วนตัว อาชีพอิสระ ตลอดจนเริ่มวางแผนและอยู่ระหว่างการเป็นสตาร์ทอัพมากกว่า
5%ต้องการทำงานต่างประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจถึงทัศนคติกับการทำงานต่างประเทศพบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่า 5% ต้องการหรือเลือกที่จะไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนเจน Y เพราะคนกลุ่มนี้กล้าเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และอยากทำอะไรใหม่ที่ท้าทายมากกว่าคนกลุ่มเจน X ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงและย้ายที่ทำงานไปไกลๆที่พักอาศัย สำหรับกลุ่มประเทศที่คนสนใจอยากไปทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรกยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่เจริญหรือพัฒนาแล้ว คือ ญี่ปุ่น รองลงมา คือ สหรัฐฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้
นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจไปทำงานในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เนื่องจากต้องการทำงานในตลาดแรงงานดังกล่าวสอดรับกับความต้องการแรงงานไทยเพื่อไปรองรับกับการขยายธุรกิจของกลุ่มทุนไทยในกลุ่มประเทศนี้ รวมถึงการมองหาโอกาสในตลาดอาเซียน
ส่วนจังหวัดที่คนทั้ง 3 เจเนอเรชั่น อยากทำงานมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ รองลงมาคือ ชลบุรี และสมุทรปราการ
นางสาวแสงเดือน ยังระบุว่า ในปัจจุบันพฤติกรรมการหางานเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่าช่องทางการหางานที่คนเลือกใช้มากที่สุด คือ เว็บไซต์หางาน -สมัครงาน 40% รองลงมา คือ เว็บไซต์ของบริษัทที่ต้องการสมัคร 17.56% คนรู้จัก 11.73% วอล์คอินไปสมัครงานที่บริษัท 7.81% และเว็บไซต์หางานเฉพาะทาง 5.9%
หางานผ่านแท็บเล็ต-สมาร์ทโฟน57%
ส่วนข้อมูลที่เก็บรวมรวมเฉพาะการหางานจากเว็บไซต์จ๊อบไทยฯ แบ่งเป็น การหางานผ่านแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน 57% และที่เหลืออีก 43%หางานผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมของคนในยุคนี้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนติดตามข่าวสาร ดูข้อมูล หางานต่างๆมากขึ้น เพราะสะดวกในการพกพาและสามารถใช้งานได้ระหว่างเดินทาง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าแม้คนจะดูงานผ่านสมาร์ทโฟนระหว่างวัน แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะสมัครงาน กรอกข้อมูลรีซูเม่ต่างๆผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปอยู่ดี
หางานผ่านสื่อดิจิทัลมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่นหันมาใช้ช่องทางสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นองค์กร หรือผู้ต้องการหาคนมาร่วมงานก็จะต้องนำเครื่องมือดิจิทัลดังกล่าวมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์และเข้าถึงคนกลุ่มนี้มากขึ้น ผนวกกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงงานที่ง่ายขึ้นก็ยิ่งทำให้องค์กรต้องเร่งปรับตัว สร้างความแตกต่างจากรายอื่นๆเพื่อดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะการสร้างคอร์ปอเรท แบรนด์ดิ้งที่จะทำให้ผู้หางานรู้จักและเข้าใจบริษัทได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งองค์กรอาจสื่อสารผ่านเรื่องราว คอนเทนท์สั้นๆให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนกลุ่มนี้
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่เติบโตจากปี2558 ราว 12% โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากเว็บไซต์จ๊อบไทยฯ 80% และอีก 20%เป็นรายได้จากหนังสือท่องเที่ยวและแผนที่
ทั้งนี้ ในปัจจุบันจ๊อบไทยฯมีคนเข้ามาฝากรีซูเม่ หรือประวัติส่วนตัวสำหรับการสมัครงาน จำนวนรวมประมาณ 1.2 ล้านราย และมีจำนวนมากกว่า 1 หมื่นบริษัทที่เข้ามาประกาศหาคนร่วมงานกับองค์กร ผ่านการประกาศรับตำแหน่งงาน 8.8 หมื่นตำแหน่ง
“ในปีก่อนบริษัทส่งเมลอัพเดตตำแหน่งงานไปกว่า 20 ล้านฉบับ และพบว่ามีอัตราการเปิดดูตำแหน่งมากถึง 70%ของจำนวนเมลที่ส่งไป”