'อภิสิทธิ์' หารือประธาน AIIB หนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไทย
ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเซีย (AIIB) ระบุไทยมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค พร้อมที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในโครงสร้างพื้นฐาน และช่วยเหลือเชียงใหม่สร้างสนามบินแห่งที่2-รถไฟฟ้า และได้หารือกับ "อภิสิทธิ์" หน.ปชป.ด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2560 ที่โรงแรมแชงกรี-ล่า เชียงใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมหารือกับ นายจิน ลี่ฉวิน ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) เกี่ยวกับการลงทุนโครงการพื้นฐานในประเทศไทย ทั้งนี้ AIIB เป็นธนาคารที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินแก่โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้หารือร่วมกับนาย จิน ลี่ฉวิน ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) แล้ว มีความเห็นตรงกันในเรื่องของการพัฒนาประเทศไทยต่อไปว่า ความจำเป็นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่ทางธนาคารยืนยันคือธนาคารมีความยืดหยุ่นสูงในการทำงานหลายรูปแบบ จึงเป็นโอกาสและเป็นประโยชน์หากไทยได้รับการช่วยเหลือเรื่องการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน
ที่ผ่านมาธนาคารได้มีความพยายามในการพัฒนาในหลายเรื่อง เช่น มีการตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ ลาว กัมพูชา ในการสร้างโครงการต่างๆ พร้อมกันนั้นได้มีการปล่อยกู้ให้กับอินโดนีเซีย ผ่านเข้าไปในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาพื้นที่เมือง ในประเทศไทยมีโอกาสที่จะเข้าไปใช้บริการของธนาคารหรือขอความร่วมมือกับทางธนาคาร ในระยะยาวทางธนาคารมองว่าการร่วมมือกันต้องดำเนินการไปอย่างยั่งยืน และต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น และให้เกิดประโยชน์ขึ้นได้จริงในภูมิภาค
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยต้องวางตัวให้เป็นศูนย์กลางภูมิภาคนี้ให้ได้ ทางธนาคารเองก็มองว่าประเทศไทยมีโอกาสและมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลาง แต่ไทยจะต้องมีความจริงจังในการดำเนินการวางแผนและพร้อมที่จะเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคได้ การที่ธนาคารจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ตามยุทธศาสตร์ได้มีโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้แหล่งเงินทุนที่ไหน ซึ่งต้องมองให้รอบด้าน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ในปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลคิดอย่างไร หากมองว่าเป็นโครงการที่สามารถเชื่อมไปถึงจีนได้จริง น่าจะผลักดันให้เป็นโครงการระดับภูมิภาค และได้รับการสนับสนุนจากธนาคารในภูมิภาค
การเดินทางเข้ามาในประเทศไทยครั้งนี้ AIIB ได้เห็นศักยภาพในหลายด้านของประเทศไทย เช่นที่ เชียงใหม่ มีศักยภาพที่จะพัฒนาเมืองให้มีความเจริญเพิ่มขึ้นรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่ต้องได้รับการสนับสนุนลงทุนในเรื่องของขนส่งมวลชน และปรับปรุงสนามบิน และมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการที่จะเป็นศูนย์การในภูมิภาค ประเทศไทยต้องเร่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาให้ได้
การเชื่อมโยงมีหลายด้าน ทั้งในเรื่องของพลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ในการยกระดับความเป็นอยู่ จุดประสงค์หลังของธนาคารคือการพยายาม ให้โครงสร้างพื้นฐานเป็นตัวนำความเจริญและแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน โดยการสนับสนุนโครงการต่างๆ อนาคตในเรื่องของการศึกษา และสาธารณสุข เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการสนับสนุนต่อไป
นอกจากนี้ ทาง Mr.jin liqun ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) เดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีนายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ดร.โภคิน พลกุล นายสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และดร.กษิต พิสิษฐ์กุล รองเลขาธิการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ให้การต้อนรับ
MR.jin liqun กล่าวอีกว่า เป็นครั้งแรกที่ทางธนาคารได้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ และพบว่าเป็นเมืองการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และมีความสวยงามทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ แต่การเติบโตของเมืองก็ต้องมีการพัฒนาไปอย่างมีทิศทาง โดยมองว่า จังหวัดเชียงใหม่ควรจะลงทุนเพิ่มในการสร้างสนามบิน รถไฟฟ้าให่เกิดเป็นรูปธรรม โดยทางธนาคารมองว่าต้องรองรับการเติบโตของอาเซียนด้วย และในวันนี้ได้พบกับนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการหารือถึงแนวทางในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยทางธนาคารยินดีที่จะจะรับฟังภาครัฐ และภาคเอกชนของจังหวัดเขียงใหม่ และพร้อมสนับสนุน ซึ่งธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่พร้อมจะให้การช่วยเหลือ เพราะดูศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งมองว่า หากจะเสนอการลงทุน ทั้งในด้านของการขยายสนามบิน, ระบบขนส่ง , รถไฟฟ้าใต้ดิน ,แปลงขยะเป็นพลังงาน หรือ การบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องที่น่าจะทำการลงทุน
ดร.โภคิน กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้รับเชิญจากรัฐบาลจีนหลายครั้งในการประชุมถึงแนวทางในการพัฒนาเส้นทางสายไหม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศที่มีการเชิ่อมโยงถึงกัน และในครั้งนี้ที่ทางMR.jin liqun เดินทางมาประเทศไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ในการที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาการค้า และสานสัมพันธ์วัฒนธรรมร่วมกัน อย่าไปมองว่าเป็นการแผ่อำนาจ แต่อยากให้มองว่าเป็นการสร้างผลประโยชน์ระหว่างกัน ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นจุดศูนยฺกลางทางการค้า และท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังสามารถเชิ่อมต่อถนนผ่านไปยังเส้นทางอาร์3เอ เข้าไปยังจีนได้ จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ทางธนาคารต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา
นางศิริพร ตันติพงษ์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางธนาคารมีความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือจังหวัดเชียงใหม่ในการพัฒนาอย่างรอบด้าน และสอดคล้องกับทางกกร.ที่ต้องการแจ้งเกิดระบบขนส่งมวลชน และสนามบินแห่งที่2 จึงเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรม และขณะนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีด้วย