7 สมาคมเหล็กวอนรัฐฯ ต่ออายุมาตรการเซฟการ์ดป้องเหล็กรีดร้อนอีก 3 ปี

7 สมาคมเหล็กวอนรัฐฯ ต่ออายุมาตรการเซฟการ์ดป้องเหล็กรีดร้อนอีก 3 ปี

7 สมาคมเหล็กยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอต่ออายุมาตรการเซฟการ์ดป้องเหล็กรีดร้อนอีก 3 ปี หวั่นกระทบอุตสาหกรรมทั้งซัพพายเชน การจ้างงาน ห่วงหากต้องปิดโรงงานจะกระทบกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้กว่าแสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.62 นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กรีดแผ่นร้อนไทย เปิดเผยว่าสมาคมเหล็กรีดร้อน และกลุ่ม7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย ประกอบไปด้วยสมาคมการค้าผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะแปรรูปเหล็กแผ่น สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน สมาคมผู้ผลิตเหล็กยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า สมาคมเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย สมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และสมาคมโลหะไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับรองเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ต่ออายุมาตการการปกป้องการนำเข้าสินค้า (safeguard) สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากเดิมที่จะหมดอายุในวันที่ 26 ก.พ.2562 โดยขอให้ต่ออายุมาตรการนี้ออกไปอีก 3 ปีเป็นหมดอายุในวันที่ 26 ก.พ.2565 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั้งระบบ

ทั้งนี้ เหล็กรีดร้อนถือเป็นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งซัพพายเชนมีความต้องการใช้ในประเทศ กว่าปีละ 7-8 ล้านตัน แต่มีการผลิตในประเทศประมาณ 3 ล้านตันและนำเข้าจากต่างประเทศปีละประมาณ 4 ล้านตัน โดยบริษัทเหล็กในประเทศได้ใช้กำลังในการผลิตเหล็กประเภทนี้อยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งที่ผ่านมามาตรการ safeguard ได้ทำให้บริษัทที่ดำเนินการผลิตเหล็กประเภทนี้ยังคงกำลังการผลิตอยู่ได้ช่วยส่งผลดีให้ผู้ประกอบการเหล็กในประเทศที่ใช้เหล็กรีดแผ่นร้อนมีวัตถุดิบที่ราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศซึ่งหากยกเลิกมาตรการ safeguard จะทำให้ปริมาณการนำเข้าเหล็กชนิดนี้มีเพิ่มขึ้นจนทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้และอาจต้องปิดโรงงานกระทบต่อการจ้างงาน

“หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกอาจกระทบกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเหล็กซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมของเศรษฐกิจเพราะกลุ่มอุตฯเหล็กมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินกว่าแสนล้านบาท” นายนาวากล่าว

S__10936560