“ศุภาลัย” ปลูกแปลงผัก สานฝันอนาคตเด็กไทย
ศุภาลัย แชมป์อสังหาฯภูธร รู้ดีว่าธุรกิจเติบโตไม่ได้หากไร้การต้อนรับจากชุมชน จึงเชื่อมต่อธุรกิจกับชุมชน ปลดล็อกปัญหาปากท้องให้นักเรียนด้วยแปลงผัก วิถีพอเพียงให้เยาวชนไทย สร้างสรรค์การเรียนรู้ห้องเรียนคู่ชุมชน สานความฝันอนาคตเยาวชนไทย
ศุภาลัย เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ที่โลดแล่นในตลาดมายาวนาน และกำลังจะฉลองครบรอบ 30 ปีของการก่อตั้งธุรกิจในกลางปีนี้ โดยธุรกิจเริ่มต้นจากต่างจังหวัด ปักธงโครงการแรกๆ ที่จังหวัดสงขลา ก่อนเข้ามารุกในตลาดภูธร จนกระทั่งสร้างอาณาจักรธุรกิจอสังหาฯท็อป 10 ของเมืองไทย
ปัจจุบันยังเป็นแชมป์ผู้พัฒนาโครงการต่างจังหวัด หรือ ภูธร มากที่สุดทั้งในแง่ของจำนวนโครงการ
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เผยถึงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนายั่งยืนว่า นอกเหนือจากผลประกอบการที่ดีแล้ว องค์กรจะต้องเติบโตไปพร้อมกับการเป็นพลังขับเคลื่อนความเจริญของประเทศชาติ ในฐานะผู้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน และสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัย
เพราะเชื่อเสมอว่า “บ้าน” คือ จุดเริ่มต้นสร้างสรรค์สังคมให้ยั่งยืน ตั้งแต่การตั้งชื่อ“ศุภาลัย”เป็นคำสนธิมาจาก”ศุภ + อาลัย” โดยคำว่า ศุภ หมายถึงดีงาม เจริญ และเป็นมงคล ส่วน อาลัย แปลว่า ที่อยู่อาศัย
เมื่อนำมารวมกันจึงหมายถึง..สถานที่อยู่อันเป็นมงคล
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษ SPL แต่ละตัวอักษาจะมีความหมายถึงความยั่งยืน S (Superiority) หมายถึง ความเป็นเลิศในด้านสินค้า การบริการ และการจัดการที่ดี, P (Profitability) หมายถึง กำไร ผลตอบแทน สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และ L(Longevity) หมายถึง การประกอบธุรกิจต่อเนื่องมั่นคง
“นิยามของบ้านที่ดี ไม่ได้จำกัดแค่การออกแบบก่อสร้าง งานสถาปัตยกรรม แต่ต้องตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องส่งเสริมสังคมดี เริ่มต้นจากหน่วยเล็กที่สุด คือ ครอบครัว ไปจนถึงหน่วยใหญ่ที่สุด คือประเทศชาติ”
สำหรับหลักการบริหารที่ทำให้เกิดความยั่งยืน “ประทีป” เน้นว่าต้องยึดหลัก“คล่องตัว ยืดหยุ่น โดยไม่ยึดติด รูปแบบเดิม ๆ พร้อมเปิดสู่มุมมองใหม่” คิดและสร้างสรรค์ทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และคุณค่าทางศิลป์ เพื่อพัฒนาสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ โดยยึดหลัก Plan-Do-Check-Act (วางแผน ทำงาน ติดตามผลหรือปัญหา นำมาปรับปรุงแก้ไข) ให้รวดเร็วถูกต้อง พร้อมตรวจสอบได้ทุกกระบวนการทำงาน
ส่วนโครงการพัฒนาเพื่อสังคม “ศุภาลัย” ในฐานะธุรกิจอสังหาฯที่เน้นปักธงสร้างผลกำไรจากพื้นที่ต่างจังหวัด เมื่อไปลงทุนทำธุรกิจในพื้นที่แล้ว จะต้องเชื่อมต่อกับชุมชน ให้ได้รับความไว้วางใจ ช่วยปลดล็อกปัญหาในพื้นที่
โดยโครงการล่าสุด ศุภาลัย เลือกที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ช่วยเหลือด้านอาหารกลางวันให้กับนักเรียนในต่างจังหวัดที่ขาดแคลน ภายใต้ชื่อ โครงการ “น้องอิ่มดี-พี่อิ่มสุข” โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2561 ที่โรงเรียนบ้านนาเมือง จ.อุบลราชธานี
ศุภาลัย ยังเข้าไปสนับสนุนสิ่งที่โรงเรียนขาด เช่น ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ปรับปรุงสนามบาสเกตบอล พัฒนาแหล่งอาหารให้กับโรงเรียนในระยะยาวด้วยการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก และแปลงผักเพื่อสุขภาพ ตลอดจนแหล่งอาหารโปรตีนจากบ่อซีเมนต์เลี้ยงปลาดุก พร้อมกับพัฒนาไปสู่การสร้างเงินทุนหมุนเวียน
ปี 2562 ศุภาลัย รุกขยายโครงการพื้นที่ใหม่ๆ ในจังหวัดเชียงราย จึงเดินหน้าโครงการไปพร้อมกับเข้าไปส่งต่อโครงการดังกล่าวไปยังโรงเรียน บ้านห้วยห้างป่าสา แก้ปัญหาตามที่ อาทิตย์ ขาววัด ผู้อำนวยการบ้านห้วยห้างป่าสา ยื่นหนังสือขอแรงสนับสนุนมาไปยังศุภาลัย
จากนั้นไม่นานจึงเกิดแปลงผักเพื่อแก้ไขปัญหาอาหารกลางวันขาดแคลน ให้กับน้องๆ เยาวชน พร้อมกับบูรณะอาคารเรียน ตลอดจนระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โรงเรียนถูกแปลงโฉมใหม่ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
ประทีป ให้มุมมองเสริมว่า โครงการเหล่านี้เป็นการเชื่อมต่อกับชุมชน ที่ถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธุรกิจเมื่อเข้าไปปักธงพัฒนาโครงการ จึงต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
ทั้งนี้โครงการต่างๆ จะพัฒนาขึ้นตามความต้องการของพื้นที่เป็นหลัก โครงการจะสำเร็จได้ ยังต้องเกิดจากการทำงานระหว่างภาคธุรกิจที่นำองค์ความรู้ด้านการพัฒนาพื้นที่ มาประสานความร่วมมือกับชุมชน เช่น ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านเกษตรยั่งยืน ให้เข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับเด็กๆ และบุคลากรในโรงเรียน
“ศุภาลัยเข้าไปเติมเต็มให้พื้นที่ขาดแคลน โดยร่วมมือกับชุมชนบูรณะพื้นที่ และเติมเต็มองค์ความรู้ ให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนสร้างสุขภาวะที่พร้อมเรียน ได้กินอิ่มถูกหลักโภชนาการ สิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะเด็กคืออนาคต ที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ” เขาเสริม
การพัฒนาธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคมรอบข้าง เป็นส่วนหนึ่งที่ภาคธุรกิจต้องตระหนักถึงหน้าที่ของการเป็นผู้สร้างความสมดุลระหว่างสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการพัฒนาดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs)ขององค์การสหประชาชาติ (UN)ในด้านการขจัดความยากจน ขจัดความหิวโหย และการมีสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดี
อาทิตย์ ขาววัด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยห้างป่าสา กล่าวว่า แรงสนับสนุนจากศุภาลัย ที่ส่งทีมงานก่อสร้าง และเพิ่มองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เด็กมีอาหารกลางวันพอเพียง และยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ พร้อมกับเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และหารายได้รวมถึงการบริหารจัดการเกษตร
“โครงการเกษตรอินทรีย์ ศุภาลัย มาวางระบบน้ำเลี้ยงไก่ เป็ด ปลูกผักนำมาทาน ช่วยให้เด็กได้รับอาหารเพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการ ยังนำส่วนที่เหลือขายได้ การแบ่งหน้าที่ให้เด็กยังช่วยปลูกฝังความรับผิดชอบ มีรายได้จากการขายสินค้า ตั้งเป็นกองทุนหมุนเวียนนำมาใช้จ่ายได้ เป็นการสอนเด็กเรียนรู้ในห้องเรียนคู่กับชุมชน”