การเงิน
TACC - ซื้อ
เพิ่มคาดการณ์กำไรปี 62 สู่ 119 ลบ. (เพิ่ม 14%) +75%YoY และคาดรายได้ 2Q19 จะเติบโตต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญ :
- รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 4 ลบ.(สูงกว่าที่คาด 40%) +254%QoQ +116%YoY: บริษัทมีรายได้ เท่ากับ 353 ลบ. (สูงกว่าที่คาด 5%) -4.7%QoQ +25%YoY จากยอดขายเครื่องดื่มโถกดเย็นที่เติบโตดี ประกอบกับธุรกิจคาแรคเตอร์มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 50 ราย โดย %GPM ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.6% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 25.6% เนื่องจากในช่วง 1Q61 ได้รับผลกระทบของภาษีน้ำตาล ส่วน %SG&A ลดลงมาที่ระดับ 17.3% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 19% และทำได้ดีกว่าเราคาดไว้ที่ระดับ 22% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 33.4 ลบ. (สูงกว่าที่คาด 40%) +254%QoQ +116%YoY และคิดเป็นสัดส่วน 32.1% ของประมาณการกำไรปี 62 (ปรับประมาณการเชิงบวก)
- คาดรายได้ 2Q62 จะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทคงเป้ารายได้เติบโตทั้งปี 15-20%: เราคาดว่ารายได้ช่วง 2Q62 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง QoQ และ YoY รับอานิสงส์เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน และเติบโตจากฐานต่ำจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผลกระทบของภาษีน้ำตาล นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 62 เติบโตราว 15-20% ตามการทิศทางการขยายสาขาของ 7-11 ประกอบกับธุรกิจใหม่เติบโตดี Character Business บริหารลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ของ San-x ได้แก่ Rilakkumna, Sumikko gurashi, Mamegoma โดยในปี 61 มีรายได้จากธุรกิจนี้ ราว 18 ลบ. และปี 62 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีรายได้จากธุรกิจนี้เติบโตมากกว่าเท่าตัว และยังมีแผนเปิดตัวคาร์แรคเตอร์ใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งขยายธุรกิจคาแรคเตอร์ไปยังแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งกลับเข้าไปขายเครื่องดื่มตรา Zenya ที่กัมพูชาอีกครั้ง คาดจะเป็นอัพไซต์ของแผนการเติบโต
- ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 62 สู่ 119 ลบ. จากเดิม 104 ลบ. (เพิ่ม 14%) +75%YoY: เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรปี 62 หลังจากที่ผลประกอบการ 1Q62 ดีกว่าคาดถึง 40% โดยปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้สู่ 1,492 ลบ. จากเดิม 1,477 ลบ. (เพิ่ม 1%) เติบโต 6%YoY ตามสมมติฐานการเติบโตตามจำนวนสาขาของ 7-11 ที่ 700 สาขา และคาดการณ์รายได้ธุรกิจคาร์แรคเตอร์สู่ราว 45 ลบ. และปรับ %GPM ลงมาสู่ระดับ 29.75% จากเดิมที่ระดับ 30.5% และปรับลด %SG&A ลงมาสู่ระดับ 19.5% จากเดิมที่ระดับ 22% ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 62 เพิ่มขึ้นสู่ 119 ลบ. จากเดิม 104 ลบ. (เพิ่ม 14%) +75%YoY
- ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ซื้อเก็งกำไร” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสำหรับปี 62 สู่ 4.90 บาท (จากเดิม 4.64 บาท) : เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PE Ratio โดยอิง Prospective PE ที่ 25x ซึ่งเป็นระดับ -0.75SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี และคาดกำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.20 บาทต่อหุ้น (เพิ่มจากเดิม 0.17 บาทต่อหุ้น) ได้ราคาเหมาะสมที่ 4.90 บาท (เพิ่มจากเดิม 4.64 บาท) ราคาเหมาะสมที่ปรับเพิ่มขึ้นมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันมากกว่าเดิม จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ซื้อเก็งกำไร”
ความเสี่ยง
i) ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและรุนแรง ii) รายได้กว่า 90% พึ่งพิงร้าน 7-11 iii) ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ