แนะกมธ.ทางด่วน-บีทีเอส หยุดขัดแย้ง มุ่งทำงานเพื่อผลประโยชน์ชาติ
"วทันยา" แนะกมธ.ทางด่วน-บีทีเอส หยุดขัดแย้ง มุ่งทำงานเพื่อผลประโยชน์ชาติ
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนนราษฎร กล่างถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่าง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ในเรื่องการแก้ไขรายงานการประชุมโดยไม่แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เรื่องนี้ตามมุมมองส่วนตัวเห็นว่า เป็นประเด็นเล็กมาก หากนำไปเทียบกับการที่เราต้องมาทำงานเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศแล้ว ตนไม่เห็นความสำคัญในรายละเอียด จากประสบการณ์ที่ตนประชุมในบริษัทเอกชนมา หากผู้ร่วมประชุมท่านใดไม่เห็นชอบกับมติที่ประชุมก็จะมีบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานอยู่แล้ว การที่นายยุทธพงศ์ ระบุว่า หากมีเรื่องร้องเรียนถึงการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายยุทธพงศ์ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบไปด้วย เพราะที่ประชุมได้บันทึกเอาไว้ชัดเจน ตนจึงมองว่า อย่านำเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาที่จะทำให้การทำงานล่าช้าออกไปน่าจะเหมาะสมที่สุด
"ในที่ประชุมตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย ส.ส.ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการศึกษาผลได้และเสียที่รัฐจะได้ผลประโยชน์มากที่สุดมาเป็นที่ตั้ง และกรรมาธิการท่านอื่นๆ ในที่ประชุมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ไม่มีใครติดใจกับประเด็นของนายยุทธพงศ์เลย" น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ในขณะนี้เรื่องสำคัญที่สุดน่าจะเป็นปัญหาเรื่องกรอบระยะเวลาในการทำงานที่ถูกตั้งไว้ 45 วัน ซึ่งจะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น กรรมาธิการจะต้องรายงายผลการศึกษาต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยในเรื่องการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสเลย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยในที่ประชุมว่าจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องบีทีเอสหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และเมื่อถึงวันรายงานกรรมาธิการจะไม่รายงานถึงความคืบหน้าเรื่องบีทีเอสเลยก็คงเป็นไปไม่ได้
"วันนี้ขอให้ยึดเป้าหมายแรกในการตั้งกรรมาธิการชุดนี้ดีกว่า ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ตนไม่เห็นถึงความสำคัญในรายละเอียดความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้" น.ส.วทันยา กล่าว