ลุ้น! กบง.ไฟเขียว กฟผ.นำเข้า 'แอลเอ็นจี' 1.5 ล้านตันต่อปีตามแผน
กกพ. เตรียมชง กบง. เร็วๆนี้ ไฟเขียว กฟผ.นำเข้า LNG ปริมาณไม่เกิน 0.8-1.5 ล้านตันต่อปี หลังวางแนวทางเคลียร์ปัญหา Take or Pay แล้ว ยันไม่กระทบค่าไฟฟ้า เล็งลดปริมาณนำเข้าบางช่วง หรือ ขาย LNG ต่อให้ผู้ใช้รายอื่น
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ได้นำเสนอผลการเจรจาร่วมระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท. เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญาการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LNG) ของ กฟผ. ปริมาณไม่เกิน 0.8 -1.5 ล้านตันต่อปี ที่จะไม่นำไปสู่ปัญหาการซื้อก๊าซฯมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเงิน (Take or Pay) ให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) พิจารณาในเร็วๆนี้
โดยพบว่า การนำเข้า LNG ของ กฟผ.จะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหา Take or Pay หากมีการบริหารจัดการที่ดีในช่วงปี 2563 แต่หากเกิดกรณีเลวร้าย ความต้องการใช้ก๊าซในประเทศลดลงบางช่วง แล้วปริมาณนำเข้าสูงเกินความต้องการใช้ ก็จะใช้แนวทางบริหารจัดร่วมกันโดย กฟผ. อาจปรับลดปริมาณนำเข้าในบางช่วง หรือ อนุญาตให้ กฟผ. สามารถนำLNG ส่วนเกินไปจำหน่ายต่อให้กับผู้ใช้ก๊าซรายอื่นแทนได้ ซึ่งอาจให้ทาง ปตท.ช่วยประสานในการจัดจำหน่ายก๊าซให้
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา กฟผ. ได้คัดเลือกผู่ชนะการประมูลจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ให้กับ กฟผ. ในปริมาณไม่เกิน 0.8 -1.5 ล้านตันต่อปี โดย บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ประเทศมาเลเซีย เป็นผู้ชนะ ในปริมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี จากผู้ยื่นข้อเสนอการแข่งขันด้านราคานำเข้า LNG จำนวน 12 ราย เนื่องจากปิโตรนาส เสนอราคานำเข้าต่ำที่สุด แต่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาซื้อขาย LNG กับบริษัทคู่ค้าที่ชนะการประมูลได้ตามแผนในช่วงเดือนมิ.ย.ผ่านมา เพราะติดปัญหา Take or Pay ทาง กบง. จึงมอบหมายให้ กกพ.เป็นคนกลางที่จะประสานงานเจรจากับระหว่าง กฟผ.และปตท.เพื่อแก้ไขปัญหา Take or Pay ให้ได้ข้อสรุป และนำกลับมาเสนอ กบง.อนุมัติอีกครั้ง ซึ่งตามแผนเดิมนั้น กฟผ.คาดว่า จะเริ่มส่งมอบ LNG ล็อตแรกได้ในเดือนก.ย. 2562 ปริมาณ 2.8 แสนตัน จากนั้นช่วงปี 2563-2569 จะเป็นการนำเข้าเต็มอัตราตามเงื่อนไขสัญญาระยะยาว 8 ปี โดยกฟผ.มีแผนจะนำLNG ไปป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.อยุธยา