เสิร์ฟเครื่องมืออัตโนมัติ ติด 'อาวุธ' ให้นักลงทุน
เมื่อโลกถูกเทคโนโลยียึดครอง !! ไม่เว้นแม้แต่ตลาดทุน 'เนส-บรรณรงค์ พิชญากร' นายใหญ่ บล.บัวหลวง รุกเสิร์ฟบริการโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ หลังซุ่มพัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำประเทศเกาหลีใต้ ผุด Trade Master หวังพิชิต 'ปัญหา & ข้อจำกัด' ให้นักลงทุน
การเข้ามาของ 'เทคโนโลยี' ที่สะดวกสบายรวดเร็วหยิบใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัส…!! ส่งผลกับพฤติกรรมผู้บริโภคให้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายธุรกิจอยู่ช่วง 'ขาลง' ไม่เว้นแม้แต่ 'ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์' หรือ โบรกเกอร์ ที่พบว่าหลายบริษัทมีกำไรลดลงจนถึงขาดทุน เป็นตามทิศทางตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นมาก
'เนส-บรรณรงค์ พิชญากร' กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง หรือ BLS หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย บอกกับ 'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek' ว่า ปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนที่มีบัญชีการซื้อขายของเมืองไทยจำนวน 1.7 ล้านคน จากข้อมูลนั้นพบว่า เป็นนักลงทุนมีการทำธุรกรรมการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต (ออนไลน์) สัดส่วนสูงถึงระดับ 70-80% และผ่านโบรกเกอร์ 20-30% โดยเป็นบัญชีซื้อขายหุ้นกับ บล.บัวหลวง จำนวน 3.6 แสนคน คิดเป็น 20%
เมื่อบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงมาถึงจุดหนึ่งที่มีฐานของลูกค้าจำนวนมากแล้ว จึงเริ่มหันมาพัฒนาการลงทุนที่จะเข้ามาอำนวนความสะดวกสบายและมีประโยชย์ต่อลูกค้าของบริษัท โดยเป้าหมายของบริษัทหลักๆ มี 2 เรื่องคือ 1.การให้ความรู้นักลงทุน และทำให้การลงทุนเข้าถึงเรื่องการลงทุนได้ง่าย และ 2.การนำนวัตกรรมการลงทุนในรูปแบบต่างๆ มาพัฒนาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักลงทุน
สะท้อนผ่านการที่บล.บัวหลวงมีการเก็บ 'ข้อมูล' (Data) ของลูกค้าทั้งหมด และเห็นพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา และทำให้พบ 'ปัญหาและข้อจำกัด' ในการลงทุน นั่นคือ เครื่องมือช่วยในการลงทุนไม่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการแท้จริง ! รวมทั้งพบเจอปัญหาที่ทำไม ? พอร์ตลงทุนลูกค้าไม่ประสบความสำเร็จและยังคงขาดทุนอยู่
นั่นคือ พบว่าตัวเลขขาดทุนในพอร์ตหุ้นของลูกค้านั้นเป็นตัวเลขขาดทุนลึกมาก !! และเมื่อพอร์ตขาดทุนลึกแล้ว ด้วยจิตวิทยาของคนรับความจริงไม่ได้ จึงพยายามปลอบใจตัวเองว่า 'ยังไม่ขายหุ้นก็ยังไม่ขาดทุน !' แต่ก็เกิดอาการเบื่อไม่อยากดูพอร์ตหุ้น ณ ตอนนั้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีไม่ถูกต้อง เพราะว่าเงินลงทุนของตัวเองต้องรู้จักดูแล ฉะนั้น เมื่อไม่มีเวลาดูแลพอร์ตลงทุน บล.บัวหลวงจึงหาเครื่องมือลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุน ซึ่งจะช่วยรักษาเงินต้นได้
ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการนำไอเดียต่างๆ มาพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติในการร่วมกันพัฒนาโปรแกรมมาช่วยนักลงทุน
ล่าสุด บล.บัวหลวง และบริษัท Daishin Financial Group บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันพัฒนาโปรแกรม 'เทรดหุ้นอัตโนมัติ' (Trade Master) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเทรดหุ้นอัตโนมัติระดับมืออาชีพที่จะมาช่วยแก้ปัญหาและข้อจำกัดของนักเทรดด้วย '4 ฟังก์ชั่น' โดยฟังก์ชั่นหลักของโปรแกรมจะเข้ามาช่วยใน การเลือกหุ้น จับจังหวะซื้อขาย คำนวณราคาก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย และคุมความเสี่ยง
'บรรณรงค์' เล่าให้ฟังต่อว่า สำหรับโปรแกรม Trade Master เริ่มเปิดตัวไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบล.บัวหลวงคือ “นักลงทุนรายใหญ่” ที่มีพอร์ตระดับ 500,000 บาทขึ้นไป จะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นซื้อหุ้นตั้งแต่ 20,000 บาท โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรม Trade Master สำหรับ iPhone , iPad , Android และคอมพิวเตอร์ PC
สำหรับคุณสมบัติของนักลงทุนที่จะใช้โปรแกรมต้องเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนและมีความรู้เรื่องการลงทุนพอสมควร (ไม่ใช่นักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนหน้าใหม่) และการลงทุนเริ่มมีผลต่อชีวิตแล้ว ซึ่งในจำนวนลูกค้าของบล.บัวหลวงนั้น มีสัดส่วนลูกค้าระดับพอร์ตดังกล่าวประมาณ '30,000-40,000 คน' !!
'บล.บัวหลวง ตั้งเป้าภายใน 1 ปี (มิ.ย.2562-มิ.ย.2563) ต้องมีนักลงทุนเข้ามารับบริการโปรแกรม Trade Master จำนวน 5,000 คน จากปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนเข้ามาใช้โปรแกรมดังกล่าวแล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 คน'
ทั้งนี้ สิ่งที่บล.บัวหลวงต้องเร่งทำคือการอบรมให้ความรู้กับนักลงทุนก่อน เนื่องจากเป็นโปรแกรมใหม่ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย อาจจะทำให้นักลงทุนยังไม่เข้าใจฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่กล้าใช้โปรแกรมดังกล่าวในการลงทุน เพราะกลัวความผิดพลาด แต่หากเรามีการอบรมให้คำแนะนำให้ความรู้นักลงทุนจะทำให้เกิดความมั่นใจและกล้าลงทุนมากขึ้น
'เมื่อมาใช้โปรแกรม Trade Master ของเรา อาการติดหุ้นหนักๆ ที่นักลงทุนเจอะเจอไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งสิ่งที่บล.บัวหลวงมักบอกนักลงทุนเสมอๆ ว่า MY SET ที่สำคัญของการลงทุนคือ ต้องบริหารความเสี่ยงให้ได้ ถ้าปล่อยให้หุ้นที่ถือร่วงลงเกิน 50% หมายความว่าหุ้นตัวนั้น ดีดกลับมาที่ต้นทุนเดิมต้องขึ้นมา 100%'
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีบล.บัวหลวงสร้างฐานนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ โครงการ The Stock Master ที่ผลิตนักลงทุนที่มีคุณภาพและช่วยสร้างสังคมการลงทุนที่ยั่งยืน โดยเชื่อว่าโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ (Trade Master) จะเป็นตัวช่วยการลงทุนชั้นดี เพราะถูกออกแบบมาให้ตรงตามความต้องการของนักเทรดโดยเฉพาะ ซึ่งจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการลงทุนแบบ ครบ จบ ในที่เดียว ส่วนการแข่งขันเป็นเพียงกุศโลบายของการเรียนรู้
โดยที่ผ่านมาโครงการ The Stock Master เป็นการเรียนรู้และแข่งขันทางด้านการลงทุนที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะนำการลงทุนพร้อมให้แนวทางเพื่อพัฒนาให้ผู้ร่วมโครงการได้เรียนรู้เทคนิคการลงทุน และรู้จักบริหารความเสี่ยงอย่างมีหลักการตลอดระยะเวลาโครงการ เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์ในสนามการลงทุนจริง
รวมทั้ง สนับสนุนการลงทุนที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการลงทุนผ่านกระบวนการลงทุนที่เหมาะสม การวางแผน วินัยการลงทุน การวิเคราะห์หลักทรัพย์ ด้วยปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์หลักทรัพย์ ด้วยปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) การใช้ประโยชน์จากบทวิเคราะห์ และเครื่องมือต่างๆ รวมถึงยังได้รับประสบการณ์จากนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีชื่อเสียง และการเรียนรู้ ผ่านการลงทุน ด้วยเงินจริง ดังนิยาม 'รู้จริงกับสนามจริง'
ท้ายสุด 'บรรณรงค์' ทิ้งท้ายไว้ว่า เป้าหมายอยากให้นักลงทุนมีความรู้เรื่องการลงทุน และมีพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ และสุดท้ายการลงทุนของคุณก็จะมีประสิทธิภาพมากและมีกำไรได้ดีขึ้น
4 ฟังก์ชั่น 'โดดเด่น'
'เนส-บรรณรงค์ พิชญากร' กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง หรือ BLS บอกว่า สำหรับ 'ความโดดเด่น' ของ 4 ฟังก์ชั่น ประกอบด้วย 1.ระบบการซื้อขายแบบอัตโนมัติ (Auto Trade) ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากโปรแกรม Bualuang iAlgo ความพิเศษของนวัตกรรมนี้จะตอบโจทย์คนไม่มีเวลานั่งเฝ้าหน้าจอ
โดยเพิ่มชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ จากเดิม 4 รูปแบบ Trailing Stop Order, Condition Order, Bracket Order, Better Order และอีก 2 ชุดคำสั่งใหม่ Preset Order ที่สามารถตั้งส่งคำซื้อขายทุกวันจนกว่าจะซื้อหรือขายหุ้นได้ตามต้องการแบบ (GTD) และ Schedule Order ส่งคำสั่งซื้อหรือขายแบบกำหนดวันที่และเวลาล่วงหน้า ขณะเดียวกันยังสามารถเปลี่ยนราคาหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ Auto Change/Cancel ตามช่วงเวลา และ Market Status ของตลาดหุ้นได้ด้วย นอกจากนี้นักลงทุนสามารถกำหนดกลยุทธ์ทั้งซื้อและขายได้พร้อมกัน และเมื่อคำสั่งซื้อได้รับการจับคู่แบบเต็มจำนวนแล้ว ระบบจะตั้งคำสั่งขายให้คุณเองทันทีแบบอัตโนมัติ ทำให้นักลงทุนสามารถควบคุมความเสี่ยงของการซื้อขายได้อย่างเป็นระบบ เราเรียกว่า คำสั่ง One Triggers The Other Order Setting หรือ OTO
2.คำนวณราคาก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย ด้วย 'Quick Trade' เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความรวดเร็ว และอยากรู้กำไร ขาดทุน หรือต้นทุน ก่อนที่จะคำสั่งซื้อขาย ซึ่งฟังก์ชันนี้จะเป็นตัวช่วยในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญของหุ้นที่มีความสะดวก และช่วยคำนวณคำสั่งซื้อขาย สามารถเปรียบเทียบกับข้อมูลในพอร์ตได้ทันทีก่อนกดส่งคำสั่ง โดยไม่ต้องเสียเวลากดเครื่องคิดเลข ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการส่งคำซื้อขายเหลือเพียง 3 สเต็ป คือ ใส่จำนวน ราคา และกด Buy หรือ Sell ได้ทันที พร้อมทั้งยังโชว์กราฟราคาภายในวัน เดือน และรายปี เพื่อให้นักลงทุนเห็นความเคลื่อนไหวราคาก่อนตัดสินใจซื้อขายอีกด้วย
3.จับจังหวะซื้อขาย ด้วย 'Technical Signals' ฟังก์ชันนี้สามารถสกรีนหุ้นทั้งหมดใน SET ที่เกิดสัญญาณซื้อขายทางเทคนิค Chart Pattern และ Indicators ชื่อดังมากกว่า 100 สัญญาณ พร้อมแสดงราคาและเวลาในการเข้าซื้อขายตาม Signal ซึ่งเป็นการต่อยอดโปรแกรมยอดนิยมของนักลงทุน Stock Signals 2018 ที่สามารถจับจังหวะซื้อขายด้วยการบอกสัญญาณและราคา Bull (กระทิง) และ Bear (หมี) แบบเรียลไทม์จำนวนมากขึ้น พร้อมกับการดู Auto Chart สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัว และ SET ย้อนหลังได้นับตั้งแต่เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ
4.ค้นหุ้นเข้าพอร์ต ด้วย 'BLS Strategy' ฟังก์ชันนี้สามารถคัดกรองหุ้นทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค โดยการรวบรวมทั้งกลยุทธ์การลงทุนสำเร็จรูปหลากหลายสไตล์ พร้อมไอเดียการลงทุนของนักลงทุนชื่อดังระดับโลก เพื่อให้นักลงทุนนำมาประยุกต์ใช้ในการลงทุน เช่น การคัดเลือกหุ้นแบบ Warren Buffett, Benjamin Graham หรือ Peter Lynch รวมไปถึงการคัดเลือกหุ้นด้วยวิธี CANSLIM อีกทั้งยังสามารถสร้างกลยุทธ์ด้วยตนเองจากปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค พร้อมทดสอบผลตอบแทนในอดีต หรือ Backtesting ได้เองตามใจคุณ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-สะสมหุ้นงบ 2Q19 เด่น
-ลุ้นหุ้นไทยวันนี้ยืนแดนบวกต่อ
-'บ้านปู' อัด 5 พันล้าน ซื้อหุ้นคืน 385 ล้านหุ้น
-ทิ้งหุ้นแบงก์ฉุดดัชนีปิดลบ 0.78 จุด