การเงิน
LIT - ซื้อ
แนวโน้มผลประกอบการ 2H62 ดีกว่า 1H62 ตามปัจจัยฤดูกาล
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
- 2Q62 มีกำไรสุทธิลดลง 8%YoY : งวด 2Q62 มีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท ลดลง 8.4%YoY โดยมีรายได้รวม 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%YoY ค่าใช้จ่ายรวม 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% ซึ่งมาจากค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้น 862%YoY จากการจัดตั้งบริษัทย่อย “บจ.ลิท เซอร์วิส แมเนจเม้นท์” เพื่อแยกธุรกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อที่เป็นอิสระและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 52% เนื่องจากมีค่าเช่าสำนักงานเพิ่มขึ้นจากการย้ายสำนักงานใหม่ การปรับปรุงผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น และค่าบริการในการจัดทำฐานข้อมูลมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 กำไร 1H62 เท่ากับ 69 ล้านบาท ลดลง 9.8% โดยคิดเป็น 44% ของประมาณการการทั้งปีที่ 158 ล้านบาท
- คงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ตามเดิมซึ่งยังเติบโต 6% : ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณกำไรปี 62 ตามเดิมที่ 158 ล้านบาท เติบโต 6% บนสมมติฐานรายได้เติบโต 16% โดยประมาณการรายได้รวม 516 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ 80 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของผู้บริหารที่ระดับ 70 ล้านบาทสูงกว่าสมมติฐานของผู้บริหารที่ประเมินอยู่ที่ราว 70 ล้านบาทใกล้เคียงกับปี 61 ส่วนประมาณการกำไรสุทธิปี 62 อยู่ที่ราว 158 ล้านบาทซึ่งยังเติบโตราว 6% จากปี 61 ซึ่งยังรักษาสถิติกำไร all time high ทั้งนี้ กำไรมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q3 จากปัจจัยด้านฤดูกาล
- คาด %NPL ปลายปีจะลดลงจากที่เพิ่มขึ้นกลางปี : แม้ปลายมิ.ย. 62 จะมี %NPL เท่ากับ 79% สูงขึ้นจากปลายปี 61 ที่ระดับ 10.39% แต่ตัวเลข NPL มีแนวโน้มลดลงจากแผน write-off ประจำปีในช่วง 3Q62 และแผนเพิ่มสัดส่วนงานภาครัฐเป็น 70% จากปัจจุบัน 60% ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ โดยจะลดสัดส่วนงานลูกค้าเอกชนเหือ 30% จากเดิม 40% โดยจะเน้นงาน project finance ที่ตอบโจทย์ในเรื่อง yield สูง
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 6.50 บาท : ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของบริษัทตามการทยอยเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการSME ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย 2563 ในเดือนต.ค.จะช่วยสนับสนุนการเปิดประมูลโครงการภาครัฐและการเติบโตของการปล่อยสินเชื่อ ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PE ที่ระดับ 11 เท่าได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 6.50 บาทยังมี upside จากราคาปิดล่าสุด จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง : 1. ยอดปล่อยสินเชื่อชะลอตัว 2. ต้นทุนการเงินสูงขึ้น 3. NPL สูงขึ้น