เพอร์เฟค ฟันธงสิ้นปีภาพรวมตลาดแนวราบโต 3-5% ขณะคอนโดติดลบ 25% หนักสุดรอบ10 ปี ผุดแคมเปญ “คอนโด ออฟ เดอะ เยียร์ จองคอนโด โกเจแปน” ระบายสต็อก 6,000 ล้านบาทไตรมาสสุดท้าย คาดว่าช่วยระบายได้ 1,500 ล้านบาท
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดแนบราบในปีนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้นคาดว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ราว 3-5% ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะติดลบ 25% นับเป็นการติดลบหนักสุดในรอบ 10 ปีเนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) และปัจจัยลบเศรษฐกิจ กำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฉุดความต้องการอสังหาฯของคนไทย ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาอสังหาฯในไทยแพงขึ้น ฉุดความต้องการซื้ออสังหาฯของชาวต่างชาติ
“ผลกระทบจากมาตรการแอลทีวีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบตลาดคอนโดได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุดในรอบ10ปี ประกอบกับมีปัจจัยลบอื่นเข้ามาในช่วงเวลาใก้เคียงกัน ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นตลาดคอนโดให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นจากปกติน่าใช้ระยะเวลา 1 ปีในการฟื้นตัว”
นายวงศกรณ์ ยังกล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะออกแคมเปญ ภายใต้ชื่อ “คอนโด ออฟ เดอะ เยียร์ จองคอนโด โกเจแปน” เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยจะนำสินค้าพร้อมโอน (สต็อก) ที่มีในมือ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท จากคอนโดที่มีอยู่ 10 โครงการ มาร่วมแคมเปญเพื่อระบายสต็อก โดยลูกค้าที่ซื้อทุกยูนิตจะได้ตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี 2 ที่นั่ง 3 วัน2 คืน คาดว่าจะสามารถระบายได้ 1,500 ล้านบาท
ส่วนโครงการ อยู่รวยคอนโด หนึ่งใน “โครงการบ้านล้านหลัง” ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเข้าร่วมโครงการ ได้พยายามขยายฐานลูกค้ามายังกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนประจำ 2-3 หมื่นบาท ในราคาเดียว 899,000 บาทจากเดิมจับกลุ่มแม่ค้า วินมอเตอร์ไซต์ ส่วนแผนในปีหน้าจะเน้นทำโครงการแนวราบ คอนโดโลว์ไรส์ 1-2 โครงการเพื่อลดความเสี่ยง คืนทุนเร็ว
เขายังกล่าวถึง ทำเลที่ยังมีศักยภาพภายใต้ภาวะตลาดอสังหาฯชะลอตัว โดยประเมินว่า ทำเลถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งบริษัทกำลังจะเปิดตัวโครงการปลายปีนี้ เป็นหนึ่งในทำเลที่ยังมีความต้องการ
ทั้งนี้ เนื่องจากนักพัฒนาอสังหาฯหลายรายมีที่ดินอยู่ย่านดังกล่าวไม่ว่าจะเป็น แสนสิริ เอสซี แอสเสท พฤกษา เอพี ฯลฯ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นดีที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะทำเลสามารถเชื่อมต่อกับทั้งใจกลางเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ปัจจุบันราคาพื้นที่ในวงแหวนเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากไร่ละ4ล้านบาทเป็น10-12ล้านบาทภายในระยะเวลา 7-8ปี
ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในย่านนี้จำนวน 400ไร่คิดเป็นมูลค่าหมื่นล้านบาท โดยพัฒนาโครงการบ้านระดับราคา20-50ล้านบาท จำนวน200ไร่ ส่วนที่เหลืออีก200ไร่จะดำเนินการต่อภายใต้โครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ในราคาตั้งแต่ 7-55 ล้านบาทต่อยูนิต ราคาเฉลี่ย25 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อและไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและมาตรการแอลทีวี
นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินที่เหลืออยู่ในร่มเกล้า 100ไร่ จับกลุ่มลูกค้าบ้านแฝด บ้านเดี่ยวราคา 5-7 ล้านบาท และรามคำแหง200ไร่ ระดับราคา7-20ล้านบาท