'ไทย' จ่อปล่อยกู้ 4.5 พันล้านบาท สร้างถนนเชื่อมท่าเรือทวาย
ไทย-เมียนมา เดินหน้าพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย “เนด้า” หนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 4.5 พันล้านบาท เชื่อมท่าเรือน้ำลึกทวาย คาดเปิดประมูลปีหน้า เปิดให้บริการปี 2566
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ว่า การประชุมครั้งนี้รัฐบาลไทยและเมียนมา แสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงการทวายให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งเป้าหมายการทำงานทั้งสองฝ่ายจะเร่งพัฒนาพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ พื้นที่โครงการทวายให้เป็นฐานการผลิตใหม่ของภูมิภาคอาเซียน และเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตโลก
โดยในระยะแรกรัฐบาลไทยได้อนุมัติในหลักการสนับสนุนทางการเงิน ในรูปแบบของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือเนด้า สําหรับโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงชายแดนไทยบริเวณบ้านน้ำพุร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
ทั้งนี้คาดหวังว่าการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและเส้นทางคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจจะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเมียนมา จะเพิ่มขึ้น 4.8% และไทยเพิ่มขึ้น 1.9% ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการค้ารวมตลอดแนวระเบียงเศรษฐกิจนี้สูงถึง 4 ล้านล้านบาท หรือ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี รวมทั้งจะเกิดการสร้างงานภายในนิคมอุตสาหกรรมทวายประมาณ 9 แสนคน และจะมีการจ้างงานรวม 3 ล้านคน เมื่อรวมถึงการลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว
ด้านนายอู จอลิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงก่อสร้าง เมียนมา เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้เมียนมาจะเซ็นสัญญากู้เงินจากเนด้าเพื่อพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายวงเงิน 4.5 พันล้านบาท สำหรับก่อสร้างถนนดังกล่าวระยะทาง 148 กิโลเมตร ส่วนแบบการก่อสร้างนั้นอยู่ระหว่างการปรับปรุง ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ จากนั้นจะเปิดประมูลปี 2563 คาดแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566