‘ชาบูชิ’เขย่าคู่แข่งหม้อไฟ! เปิด24ชม.-ดันร้านเล็กเจาะเมืองรอง

หลังศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึกในยุคนี้ พบว่า หนึ่งในเมกะเทรนด์ที่มาแรง นั่นคือ  "Sleepless Society“ หรือ “สังคมคนนอนดึก” มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนเมือง

ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ชาบูชิ เป็นแบรนด์หลักที่มีสัดส่วนยอดขายสูง 60-65% ของยอดขายรวมโออิชิกรุ๊ป ปัจจุบัน ชาบูชิ มีสาขา 149 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ โดยกว่า 50% เป็นโมเดลร้านขนาดใหญ่กว่า 300 ตร.ม. หลังจากนี้จะไม่มีการขยายร้านในรูปแบบเก่า!! อีกต่อไป 

แผนธุรกิจในรอบปี 2563 (ต.ค.2562-ก.ย.2563) ชาบูชิ วาง 3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย Driving Organic Growth มุ่งสร้างคุณค่าของสินค้าและบริการ เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน Driving Operational Excellence เน้นพัฒนากระบวนการทำงานภายในด้านต่างๆ และวางระบบควบคุมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า สุดท้าย Store Expansion ขยายเครือข่ายสาขาเพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ

ชาบูชิ ตั้งเป้าหมายเปิดร้านใหม่ 11 แห่ง เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมาขยายสาขา 10-14 แห่งต่อปี ลงทุนราว 500 ล้านบาท

โดยพัฒนา 3 โมเดลใหม่ในการขยายตลาด ได้แก่ ร้านขนาดเล็ก หรือ Light Store Format พื้นที่ 150-170 ตร.ม. ใช้ 1 สายพาน จำนวน 48-65 ที่นั่ง เป็น “เรือธง” ในการบุกเมืองรอง และขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ใกล้เคียงร้านเดิม

โมเดลร้าน 24 ชั่วโมง หรือ HybridStore Format ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนบริการได้ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ และบริการสั่งจากโต๊ะเรียกว่าเป็นการปรับกลยุทธ์และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง

และโมเดล Tier Pricing Format เน้นให้บริการในราคาที่แตกต่างกันตามดีมานด์ในพื้นที่นั้นๆ เช่น โกลด์บุฟเฟต์ ราคา 429 บาท หรือ แพลทินัมบุฟเฟต์ ราคา599 บาท เจาะกลุ่มห้างหรู และแหล่งท่องเที่ยว รองรับลูกค้าระดับพรีเมี่ยม

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแน่นอนว่า “ผู้บริโภค” ย่อมเปลี่ยนไป ธุรกิจต้องปรับตัวให้เร็วรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด 

"การทำร้านอาหารเพียงแค่อาหารอร่อย บริการดี เหมือนยุคก่อน ไม่เพียงพออีกต่อไป ปัจจุบัน ต้องเพิ่ม ความสะดวก และสามารถรองรับได้ทุกเวลาเข้าไปด้วย” 

โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองยุคใหม่ ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา พฤติกรรมและการใช้ชีวิตมีความยืดหยุ่น คล่องตัวมากขึ้น  และไม่เป็นไปตามแบบแผนเหมือนแต่ก่อน ข้อจำกัดและเงื่อนไขด้านเวลา ไม่ว่าจะเป็นแต่เช้าตรู่ หรือดึกดื่นแค่ไหน ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคของชีวิตอีกต่อไป จะเห็นว่า วิถีคนเมืองนอนดึก ขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหาร!!

หากพิจารณาจากผลสำรวจรอบ 30 วัน จากการทดลองเปิดบริการ 24 ชั่วโมง จากฐานลูกค้ากว่า 2.3 หมื่นคนในร้านชาบูชิ ช่วงเวลาที่ลูกค้าเลือกมาใช้บริการในเวลาปกติ 10.00-22.00 น. มีสัดส่วน 54%  ขณะที่การขยายเวลาให้บริการตั้งแต่ 22.01-09.59 น.มีสัดส่วนถึง 46%  สะท้อนได้หลายมิติ หากไม่ทำ!! แน่นอนว่า ยอดขายหายไป 46% เลยทีเดียว  เพราะความหิวไม่เลือกช่วงเวลา เพราะความหิวรอไม่ได้!  ขณะที่ห้วงเวลา 20.01-02.00 น. ลูกค้าเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก!! 

เป็นที่มาของ ชาบูชิ บริการทั้งวันทั้งคืน ตลอด 24 ชั่วโมง สาขาแรก สามย่านมิตรทาวน์ เป็นแฟลกชิพสโตร์ ของโมเดลธุรกิจเปิด 24 ชั่วโมง ในการส่งมอบประสบการณ์อาหารสไตล์ญี่ปุ่นทั้งชาบู-ชาบู สุกี้หม้อไฟ และซูชิ ข้าวปั้นสารพัดหน้า รองรับความต้องการของนักกิน 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเวลาปกติ เริ่มเวลา10.00-22.00 น.ค่าบริการสุทธิ 419บาท และเวลา 22.01-09.59 น. ค่าบริการสุทธิ 319 บาท เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายได้จัดโปรโมชั่น “HAPPY HOUR BUFFET” ราคา 299 บาท  เมื่อใช้บริการเวลา 22.01-09.59 น. จนถึงสิ้นปี 2562

 

 

ไพศาล กล่าวต่อว่า “การขยายเวลา”  ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มโอกาสการขาย!!  ของชาบูชิ จากข้อจำกัดของห้างค้าปลีกต่างๆ ส่วนใหญ่ปิดบริการในเวลา 22.00 น. โดยเลือกขยายเวลาให้บริการในช่วงเช้า ตั้งแต่ 09.00 น. จากเดิมเปิดบริการเวลา 10.00 น. ประเดิมร้านชาบูชิ ในเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี  ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่มีราว 56 สาขา    

แม้สมรภูมิธุรกิจร้านอาหารจะเต็มไปด้วยคู่แข่งทั้งหน้าเก่าและรายใหม่ แต่ชาบูชิ และร้านอาหารในโออิชิกรุ๊ป มีความได้เปรียบของ  “ทำเลเกรดเอ”  จากเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ในกลุ่มทีซีซี กิจการของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่กำลังถูกต่อยอดเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น!!