ถึงเวลา AI สอนพูดภาษาอังกฤษ ‘ELSA’ ปรับทักษะสู้ดิสรัป
แม้จะมีทักษะและอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายในยุคดิสรัปชั่น แต่ถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับ “ภาษาอังกฤษ” ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก ซึ่งมีความสำคัญตั้งแต่อดีต จนวันนี้และในอนาคตก็ยิ่งทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด “เอสอีเอซี” (SEAC-Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนา ยกระดับศักยภาพคนไทย และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในทุกช่วงอายุ ได้จับมือกับ “เอลซ่า” (ELSA-English Language Speech Assistant) สตาร์ทอัพด้านการศึกษาระดับซีรีส์เอจากซิลิคอนวัลเลย์ ร่วมกันสร้างความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยได้อย่างมั่นใจขึ้น
“อริญญา เถลิงศรี” กรรมการผู้จัดการ เอสอีเอซี กล่าวว่า ที่ผ่านมามองเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานหรือกลุ่มนักเรียนต่างก็ให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของไวยากรณ์ แต่มีจุดอ่อนตรงที่ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ ไม่กล้าสื่อสาร ขาดความมั่นใจในการออกเสียงอย่างถูกต้อง
ตอกย้ำด้วยผลคะแนนภาษาอังกฤษของ EF English Proficiency Index (EF EPI) ซึ่งเป็นตัววัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับยอมรับจากทั่วโลก ที่ชี้ว่าประสิทธิภาพในการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ ในปีนี้เราอยู่อันดับที่ 74 จากประเทศที่เข้าร่วมทดสอบทั้งหมด 100 ประเทศ (ลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 10 อันดับ) และเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียด้วยกัน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 จากจำนวน
ประเทศที่่เข้าร่วมทดสอบ 25 ประเทศ (ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1 อันดับ)
“ในยุคดิสรัปชั่นการสื่อสารก็ยิ่งเป็นทักษะที่มีความจำเป็น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่คนไทยทุกคนต้องให้ความใส่ใจ เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข”
สำหรับเอลซ่า ก่อตั้งโดย “วู แวน” สัญชาติเวียดนาม และเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ร่วมกับ “ดร.ซาเวียร์ อังกูเอร่า” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจจับคำพูดและปัญญาประดิษฐ์
เอลซ่า สามารถระดมเงินทุนได้มากถึง 12 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ระดับซีรีส์เอ) จากผู้ร่วมลงทุนทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Gradient Ventures บริษัท AI Fund ของกูเกิล Monk's Hill Ventures และ SOSV ทั้งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็น “ท้อบ 4” ที่ใช้เทคโนโลยี AI มาเปลี่ยนแปลงโลก โดยพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ชื่อ “เอลซ่า สปีค”
แอพดังกล่าวจะทำหน้าที่เสมือนเป็น “โค้ช” สอนภาษาส่วนตัว และยังเป็นแอพแรกและแอพเดียวที่สามารถจับและวิเคราะห์สำเนียงของผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ให้ฟีดแบ็คว่าผู้เรียน พูดหรือออกเสียงผิดตรงไหน ผิดอย่างไร และมีคำแนะนำให้ด้วยว่าที่ถูกต้อง ชัดเจนจะต้องพูดหรือต้องออกเสียงอย่างไร ด้วยบทเรียนสนุกๆกว่า 6 พันบทเรียน ครอบคลุมกว่า 37 หัวข้อ ที่เป็นสำนวนภาษาอังกฤษที่พบเจอได้บ่อย ๆในชีวิตประจำวันและการทำงาน
วู แวน เล่าว่า เอลซ่าเกิดขึ้นจากเพนพ้อยท์ที่ตัวเธอเองก็เคยประสบมา สมัยเรียนที่ยังอยู่ในประเทศเวียดนาม เธอก็คือเด็กที่เรียนภาษาอังกฤษที่เก่งที่สุด ทว่าพอบินไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกามันก็กลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะได้พบว่าการสื่อสารภาษาอังกฤษของเธอไม่ได้เรื่อง เธอไม่สามารถพูดหรือออกเสียงที่ทำให้อาจารย์ฝรั่ง และเพื่อนฝรั่งเข้าใจได้
สำหรับวู แวนการสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ มันหมายถึงโอกาสล้ำค่าที่อาจสูญเสียไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน โอกาสและความก้าวหน้าในการทำงาน การทำธุรกิจ ฯลฯ
ซึ่งการเรียนผ่าน เอลซ่า สปีค ทำได้ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ฟัง 2. พูดตาม และ3.เอลซ่าจะให้คำแนะนำวิธีการพูด การออกเสียงที่ถูกต้อง
ปัจจุบันเอลซ่า สปีคถือเป็นแอพฝึกภาษาอังกฤษที่เป็นท้อบ 5 ของโลก มีการใช้งานใน 101 ประเทศ มียอดดาวน์โหลดกว่า 5 ล้านครั้ง และมีผู้ใช้ต่อเนื่องกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ 90% ผู้เรียนสามารถออกเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 68% พูดได้ถูกต้องขึ้น และ 100% มีความรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น เรียกว่าถ้าผู้เรียนใช้เวลาเพียง 10 นาทีต่อวันในการฝึกอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่า 40% ภายในเวลาหนึ่งเดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เอลซ่า สปีค เป็นแอพที่สอนการพูดภาษาอังกฤษ “สําเนียงอเมริกัน” แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาไปสู่ภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งชาติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษต้นฉบับ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนต้องใช้เวลาเพราะต้องสอน AI ให้จดจำแต่ละสำเนียง
ด้าน อริญญาเผยถึงแผนว่า จะเปิดตัวแอพดังกล่าวอย่างเป็นทางการภายในเดือนก.พ.ปีหน้า เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงของการออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์บริบทแบบไทยๆ เบื้องต้นเอสอีเอซีจะนำเอาจุดเด่นของเอลซ่า สปีค มาใช้ ซึ่งมี 4 จุดไฮไลท์ ก็คือ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ที่มีความแม่นยำที่สามารถแยกแยะเสียงพูด ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่รวบรวมสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษจากคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษาไว้มากที่สุดในโลก การเน้นทักษะการออกเสียงการพูดภาษาอังกฤษให้ชัดเจน คล่องแคล่ว มั่นใจยิ่งขึ้น เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยมีแบบทดสอบที่ได้รับการออกแบบจากนักวิทยาศาสตร์การพูด (Speech Scientist) เพื่อวิเคราะห์ สร้างแนวทางการเรียนรู้และหลักสูตรเฉพาะบุคคลเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ยังมุ่งออกแบบหลักสูตรที่สามารถใช้งานได้ง่าย สนุกสนานเหมือนเล่นเกม แต่มาพร้อมความสามารถในการวิเคราะห์และให้ข้อมูลป้อนกลับแบบเรียลไทม์ สำหรับลูกค้าองค์กรก็จะมีโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบความต่อเนื่องในการเรียนรู้และการฝึกฝนของพนักงาน
ประการสำคัญยังมีการออกแบบบทเรียนให้เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจที่องค์กรทำอยู่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ รูปประโยค และบทสนทนาเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมและรูปแบบการดำเนินธุรกิจของประเทศไทย ด้วยราคาที่สบายกระเป๋า ก็คือ 1,200 บาท /คน/ปี หรือตกเดือนละ 100 บาทซึ่งถือเป็นค่าเรียนที่ค่อนข้างถูกมาก
เธอมองว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก็คือ ทุกธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศไทย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและติดต่อกับชาวต่างชาติโดยตรง เช่น ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล การบิน ร้านอาหาร การศึกษาและธุรกิจการบริการ เป็นต้น
“ภายในเวลา 3 ปี ของความร่วมมือครั้งนี้ เราหวังจะยกระดับคะแนนความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ 3-5 เลเวล และมีคนไทยเข้าเรียนในแพลตฟอร์มนี้จำนวน 10 ล้านคน” คือเป้าหมายที่ผู้นำเอสอีเอซีตั้งไว้