พาณิชย์ ชี้สหรัฐจีน บรรลุข้อตกลงเทรดวอร์ ทำการค้าโลกดีขึ้น
พาณิชย์ประเมินสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ช่วยคลายความกังวลการค้าโลกไม่บานปลาย กระตุ้นเศรษฐกิจโลกแนะไทยเดินหน้าทำยอดส่งออก
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐฯ และจีนยืนยันบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก (Phase-1) เรียบร้อยแล้ว ในคืนวันที่ 13 ธ.ค. 62 (ตามเวลาประเทศไทย) แม้สหรัฐฯ - จีน ยังไม่เปิดเผยเนื้อหาข้อตกลงระยะแรกอย่างเป็นทางการ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทบทวนทางกฎหมาย และขัดเกลาถ้อยคำก่อนเข้าสู่กระบวนการลงนามต่อไป การยืนยันจากทั้งสองประเทศจะช่วยให้บรรยากาศทางการค้าดีขึ้น และคลายความกังวลว่าสงครามการค้าจะไม่ลุกลามไปถึงการขึ้นภาษีนำเข้าเต็มจำนวน
สำหรับรายยละเอียดข้อตกลงบางส่วน ได้แก่ สหรัฐฯ เสนอว่า 1. ยกเลิกการขึ้นภาษี 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ครอบคลุมสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวิดีโอเกมส์ โทรทัศน์ วิทยุ จอคอมพิวเตอร์ และสินค้าอื่นผู้บริโภคอื่นๆ เช่น นาฬิกา ของเล่น รองเท้าและเครื่องแต่งกาย 2. ปรับลดภาษีสินค้า 1.2 แสนล้านดอลลาร์เหลืออัตรา 7.5% (จากเดิม 15% และบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 62) ทั้งนี้ จะยังคงภาษี 25% สำหรับสินค้ามูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนตกลงในประเด็น 1. การซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ในเวลา 2 ปี โดยจีนเน้นย้ำว่าจะต้องสอดคล้องกับความต้องการตลาดและเป็นไปตามข้อตกลงภายใต้ดับบลิวทีโอ 2 .ลดอุปสรรคทางการค้าในภาคการบริการ อาทิ การเงินสาขาการธนาคาร การประกันภัย และหลักทรัพย์ 3. แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี และละเว้นการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพื่อการครอบครองเทคโนโลยีต่างชาติ 4. ละเว้นการดำเนินนโยบายค่าเงินที่สร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมกันนี้สหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเจรจาข้อตกลงระยะสอง (Phase-2 Deal) ทันที
นอกจากนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เปิดเผยว่าเนื้อหาของข้อตกลง Phase-1 Deal ประกอบด้วยประเด็นสำคัญเชิงโครงสร้างและการขยายการค้าระหว่างกัน ได้แก่ ทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายทอดเทคโนโลยี สินค้าเกษตร การบริการทางการเงิน อัตราแลกเปลี่ยน การขยายการค้า (ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตรและอาหารทะเล พลังงาน และภาคบริการ) และกลไกการระงับข้อพิพาท (Dispute Resolution)
“ความสำเร็จของการเจรจา Phase-1 Deal นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อเรียกร้องที่สหรัฐฯ ผลักดันให้จีนแก้ไข โดยประเมินว่าทั้งสองฝ่ายต่างต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภค โดยข้อตกลงระยะแรกจะช่วยลดภาระภาษีนำเข้าแก่ผู้ประกอบการสหรัฐฯ และช่วยลดแรงกดดันด้านราคาต่อผู้บริโภค รวมถึงการบรรเทาภาวะการส่งออกและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน โดยคาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนขยายตัวดีขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก รวมถึงการส่งออกไทยให้ขยายตัวได้มากขึ้น”นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า ไทยจึงควรเร่งใช้โอกาสในการทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ต่อไป ในช่วง 3 ไตรมาสแรก ปี 62 พบว่าไทยสามารถทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในจีนได้ดี โดยจีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลง 31.9% ขณะที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 1.5% โดยเฉพาะอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง และสิ่งมีชีวิต/ส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต ขณะที่ การลดภาษีนำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ อาจทำให้ไทยได้ประโยชน์ลดลงจากการเบี่ยงเบนทางการค้า (Trade Diversion) เนื่องจากสินค้าจีนจะกลับเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ทั้งนี้ ไทยควรกระชับมิตรผู้นำเข้า ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดให้มีเสถียรภาพ โดย 3 ไตรมาสแรก ปี 62 สหรัฐฯ นำเข้าจีนลดลง 14% ขณะที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 2.9% โดยกลุ่มสินค้าส่งออกไทยที่ทดแทนสินค้าจีนได้ดี ได้แก่สินค้าเกษตรกรรม อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบ เหล็กและอลูมิเนียม และของใช้ในบ้านและสำนักงาน