‘อุตตม’เปิดทางออกสลาก ผลิต‘หมอนยางประชารัฐ’
“อุตตม” เปิดทางกระทรวงเกษตร ออกสลากการกุศล เพื่อระดมเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท ผลิตหมอนยางประชารัฐ 30 ล้านใบ เผยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างหารืออ.ต.ก.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้ออกสลากการกุศล เพื่อนำไปผลิตหมอนยางพาราประชารัฐจำนวน30 ล้านใบ มูลค่า 18,000 ล้านบาทว่า ทางร.อ.ธรรมนัส ได้เข้ามาหารือเบื้องต้นถึงแนวทางดังกล่าวแล้วว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกสลากการกุศลเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือภาคการเกษตร โดยขณะนี้สำนักสลากฯ อยู่ระหว่างหารือกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูข้อกฎหมายด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่
“จะทำได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูที่โครงการว่าประโยชน์เป็นอย่างไร แม้ว่าที่ผ่านมาในการออกสลาก จะไม่นำมาใช้ในการช่วยเหลือเกษตรกรหรือทางเศรษฐกิจ ก็ต้องดูว่าของใหม่ที่จะทำ จะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยทำ สามารถทำได้หากเกิดประโยชน์ รัดกุม ไม่เกิดความเสียหาย และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล”
ทั้งนี้ คาดว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า ซึ่งโครงการจะต้องมีความชัดเจน เมื่อทุกอย่างชัดเจนจะเข้าสู่ขั้นตอนกฎหมายที่จะออกสลาก โดยยืนยันว่า การออกสลากมาดำเนินการ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่มีเงิน ยืนยันว่าเงินยังมีอยู่
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้เชิญสำนักงานสลากฯ ไปหารือถึงแนวทางการออกสลากการกุศล เพื่อนำเงินไปผลิตหมอนยางประชารัฐ30ล้านใบ ในส่วนของสำนักงานสลากฯคงต้องมาพิจารณาว่า จะทำได้หรือไม่อย่างไร เพราะการออกสลากการกุศลมีขั้นตอน ต้องมีการกลั่นกรองหลักเกณฑ์ โดยขณะนี้มีหน่วยงานต่างๆ ที่ขอออกสลากการกศุลต่อคิวกว่า 10 โครงการ ซึ่งในการดำเนินการจะออกเป็นรอบๆ โดยจะครบตามที่ขอไว้ในปีปฏิทิน 2563
“ต้องดูรายละเอียดในกฎเกณฑ์ โดยหากจะออกสลากการกุศลรอบใหม่ กรอบในการพิมพ์ต้องอยู่ที่ไม่เกิน 100 ล้านฉบับ โดยขณะนี้ ยอดพิมพ์อยู่ที่กว่า90 ล้านฉบับ เพราะขึ้นอยู่กับการจองซื้อว่าจะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแต่ละงวดจะไม่เท่ากัน”
สำหรับการออกสลากรูปใหม่ นอกเหนือจากสลากใบนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการ ได้ศึกษาเกือบแล้วเสร็จ คาดว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้าจะสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร และทำได้ไม่ได้อย่างไร