'บางจาก' เล็งขยายปั๊มชาร์จอีวีในสถานีบริการน้ำมัน
บางจากฯ เตรียมสรุปแผนขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ารถอีวีและโซลาร์รูฟท็อปในปั๊มน้ำมันชัดเจนต้นปี63 ตั้งเป้าใน 5ปี ดันสัดส่วนกำไรธุรกิจนอนออยล์แตะ 30% จากปัจจุบัน 10%
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า แผนขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charger) เพื่อให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสถานีบริการ(ปั๊ม)น้ำมันบางจากฯนั้น จะดำเนินการภายใต้การลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ(MOU)ในการพัฒนารูปแบบธุรกิจสำหรับพลังงานสะอาด ระหว่างบางจากฯ กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
ขณะนี้ กฟภ.กำลังสำรวจพื้นที่ของปั๊มน้ำมันบางจากฯ ที่จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าระบบ Fast Charge ที่ใช้เวลาชาร์จ 20 นาที ซึ่งมีเป้าหมายจะทำการติดตั้งทุก 100 กิโลเมตร เบื้องต้นจะมุ่นเน้นปั๊มน้ำมันที่อยู่แนวเส้นทางถนนทางหลัก ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ กฟภ.จะลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าและเก็บค่าบริการ ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐในการศึกษาปรับอัตราค่าชาร์จไฟฟ้าที่เหมาะสม ส่วนบางจากฯ จะให้พื้นที่สำหรับจอดรถเพื่อชาร์จไฟฟ้า เช่น บริเวณหน้าร้านกาแฟอินทนิล
ทั้งนี้ คาดว่า แผนงานจะชัดเจนในต้นปี 2563 และเริ่มดำเนินการทยอยติดตั้งตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีนี้ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริง ก่อนขยายให้ครบ 62 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันบางจากฯ ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าอยู่แล้ว 3-4 แห่ง ซึ่งยังได้รับความนิยมไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะชาร์จที่บ้านอยู่อาศัยเป็นหลัก
ส่วนแผนขยายการลงทุนติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) บนหลังคาอาคารสถานีบริการน้ำมัน และอาคารร้านค้าภายในปั๊มน้ำมันบางจากที่บริหาร โดยบริษัท บางจาก รีเทล จำกัดนั้น ทางบริษัทในเครือ คือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ดำเนินการลงทุนติดตั้ง
ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนงานมานำเสนอต่อบางจากฯ คาดว่า จะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2563 เบื้องต้น จะเป็นการติดตั้งปั๊มน้ำมันที่ บางจากฯ บริหารเองก่อน ซึ่งมีอยู่ 220 แห่ง เพื่อทดลองประสิทธิภาพ ก่อนจะขยายการติดตั้งไปยังปั๊มน้ำมันที่ดำเนินโดยตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันบางจากฯ ทดลองติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปไปกี่แห่ง เช่น โครงการ Green Community Energy Management System (GEMS) ที่ปั๊มบางจาก ศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ ที่เป็นการนำร่องสร้างนวัตกรรมสีเขียวรูปโฉมใหม่ ในการติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาปั๊มน้ำมัน อาคารร้านค้า SPAR และที่จอดรถ พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) โดยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปนั้น ทาง BCPG จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้ง ขณะที่บางจากฯ และบางจาก รีเทล จะได้รับประโยชน์จากราคาไฟฟ้าที่ต่ำลงราว 10-15%
“ตอนนี้ แผนขยายปั๊มชาร์จไฟฟ้า และโซลาร์รูฟท็อปในปั๊มน้ำมัน ยังรอทาง กฟภ.และ BCPG จัดทำแผนงานมาเสนอ คาดว่าจะเสร็จสิ้นหลังปีใหม่(ปี2563) และเริ่มดำเนินการได้ตั้งไตรมาส1เป็นต้นไป” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของความร่วมมือติดตั้งหัวจ่ายน้ำมันในปั๊มก๊าซแอลพีจี ที่เดิม บางจากฯมีความร่วมมือกับบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) นำหัวน้ำมัน ไปจำหน่ายในปั๊มแอลพีจีของสยามแก๊สฯ เพื่อช่วยเสริมรายได้ให้กับปั๊มแอลพีจีนั้น ได้เปิดดำเนินการแล้ว 6 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอีก4 แห่งในปี2563
นายสมชัย กล่าวว่า การแข่งขันในธุรกิจน้ำมันปี2563 จะรุนแรงใกล้เคียงกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของบางจากฯ ได้ตั้งเป้าหมายจะมียอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น 6% สูงกว่าตลาดรวมของประเทศที่คาดว่าจะเติบโต3% จากปี2562 ซึ่งจะเป็นผลมาจากการลงทุนขยายปั๊มน้ำมันอีก 60 แห่ง ทำให้สิ้นปี2563 จะมีปั๊มอยู่ที่ 1,260 แห่ง และแผนขยายการลงทุนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(Non oil) เช่น สาขาร้านกาแฟ อินทนิล,ร้านสะดวกซื้อสปาร์ (SPAR) และธุรกิจคาร์แคร์ (Green Series)
โดยตั้งเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า หรือปี2567 กลุ่มธุรกิจการตลาดของบางจากฯ จะมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ Non oil เพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% และธุรกิจน้ำมัน จะอยู่ที่ 70%ในปี2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 90% สำหรับธุริจ Non oil ปัจจุบัน ทำกำไรเป็นอันดับ 1 คือ ร้านกาแฟ อินทนิล อันดับ 2 คือ ร้านค้าปลีก และอันดับ 3 คือ ธุรกิจคาร์แคร์
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจการตลาดของบางจาก ในปี 2563 ได้เตรียมงบลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดโตขึ้น 2% ให้ไปอยู่ที่ 18% ในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 16% อยู่ในอันดับ 2 ของธุรกิจน้ำมัน