'เอพี' พลิกเกมรับอสังหาฯทรงตัว ลดเปิดคอนโดใหม่-หั่นราคาขาย
เอพี พลิกเกมรับอสังหาฯทรงตัว เผยปีนี้ลดเปิดตัวคอนโดใหม่เหลือ 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,100 ล้านบาทจากปีก่อนเปิด 6 โครงการ มูลค่า 27,100 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์ลดราคาขายต่อตรม.ไม่ให้เกิน 1.8 แสนบาท ชูโมเดลไดนามิกเพอร์ซันนัลไลฟ์ ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยเฉพาะกลุ่ม
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี2563 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดอสังหาฯ เป็นผลมาจากความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากเทคโนโลยี นโยบายภาครัฐ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯทรงตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีซัพพลายล้นในบางพื้นที่ รวมทั้งกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องลดแผนการเปิดตัวคอนโดใหม่ลงเหลือ 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,100 ล้านบาท จากปีก่อนเปิด 6 โครงการ มูลค่า27,100ล้านบาท โดยจะเป็นโครงการร่วมทุน 2 โครงการ ที่เหลือเป็นของเอพี ภายใต้แบรนด์ HYTHM,LIFE,ASPIRE ในระดับราคาต่อตร.ม. ไม่เกิน180,000 บาท
“สถานการณ์ตลาดปีนี้เชื่อว่า คอนโดราคา 180,000 บาทต่อตร.ม. ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งแง่กำลังซื้อและอารมณ์ซื้อ หากราคาสูงกว่านี้ขายยาก จึงมองหาที่ดินในราคาที่สามารถพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้าไม่จำเป็นต้องอยู่แนวรถไฟฟ้าเท่านั้น ขณะเดียวกันขนาดโครงการเล็กลงจากเดิมโครงการขนาดใหญ่ ลดลงมาเล่นขนาดกลางแทน โดยมีโครงการ ริธึ่ม (RHYTHM) เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน เป็นโครงการนำร่อง”
นายวิทการ ยังกล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ยังมี “โอกาส” โดยปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการทำตลาดอสังหาฯ คือ ทำเล ราคา ที่เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ดังนั้นในปี 2563 เอพีจึงชูแนวคิด “Dynamic Personalized Model”ในการพัฒนาคอนโดใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการเพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการลูกค้าในเชิงลึก (Consumer Insight) ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละโครงการ โดยผสมผสานเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เข้ากับกระบวนการคิดเชิงออกแบบในการพัฒนาคอนโดรูปแบบใหม่ ที่เข้าใจ ลูกค้าและพัฒนาสินค้าให้ โดนใจ มากกว่าแค่ฟังก์ชั่น แต่ตอบโจทย์สไตล์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเขื่อมั่น ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์
“ยิ่งในภาวะที่การแข่งขันรุนแรง ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น เราต้องช่วงชิงการเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of Mind) ให้ได้ ด้วยการพัฒนาโครงการในทำเลและราคาขายที่ผู้บริโภคจับต้องได้และ การเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากขึ้น หมดเวลาการทำงานแบบหว่านแห ที่เหมารวมเป็นโลเคชั่น ”
สำหรับแนวคิดในการออกแบบและพัฒนาคอนโดภายใต้ ‘Dynamic Personalized Model’ จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ โดยผ่านเทรนด์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ และ การคิดเชิงออกแบบ เพื่อค้นหาความต้องการแฝง (Unmet Needs) ของลูกค้าในแต่ละลิฟวิ่งแพทเทิร์น และนำอินไซต์เหล่านั้นมาพัฒนาโครงการ
โดยล่าสุดปลายปีที่ผ่านมา เอพี ได้เปิดตัว โครงการ ริธึ่ม( RHYTHM) เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ซึ่งเป็น ลักชัวรี่คอนโด ที่เป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่18 ระหว่างเอพี ไทยแลนด์กับ มิตชูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนท์ มูลค่า4,700ล้านบาทรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันหลายเจนเนอเรชั่น ภายใต้แนวคิด Dynamic Personalized Model มาประยุกต์ใช้เป็นโครงการแรก เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยจริง
“ เรามองเห็นโอกาสในการพัฒนาคอนโดใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดเพื่อตอบลิฟวิ่งแพทเทิร์นในรูปแบบ Co-Generations Series ซึ่งเป็นเทรนด์การอยู่อาศัยของกลุ่มคนเมืองที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายเจนเนอเรชั่นทั้งเจนเอ็กซ์ เจนวายและอัลฟ่า ในระดับราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายเฉลี่ย155,000 บาทต่อตร.ม.หรือราคา4.9 ล้านบาท ห้องขนาด35 ตร.ม. จากปกติระดับราคาขายของโครงการ ริธึ่ม( RHYTHM) ตร.ม.เกือบ 200,000 บาท”
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโด ย่าน เจริญกรุง เป็นหนึ่งในทำเลที่น่าสนใจ เนื่องจากผลการสำรวจตลาดพบว่า 10 ปี ที่ผ่านมามีคอนโดในย่านเจริญกรุง เพียง 4 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,120 ยูนิต แบ่งเป็นเซ็กเมนต์อัลตร้าลักชัวรี่ ระดับราคา300,000 บาทต่อตร.ม. จำนวน 1 โครงการ จำนวน 355 ยูนิต มียอดขายรวม 80% ในขณะที่เซ็กเมนต์ลักชัวรี่ ระดับราคา 150,000-190,000 บาทต่อตร.ม.มีจำนวนพบ 3 โครงการ จำนวนยูนิตเปิดขาย 765 ยูนิต โดยได้รับการตอบรับดี มียอดขายรวม 94% รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาว (Rental Yield) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณ 6-7%