‘รายย่อย’ฉายเดี่ยวซื้อหุ้นไทย7.8พันล้าน ดัชนีปิดสิ้นวันดิ่งหนัก 45 จุด
หุ้นไทยปิดตลาดร่วง 45 จุด หรือ 2.89% มูลค่าซื้อขายกว่า 6.9 หมื่นล้าน ขณะ นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิกว่า 7.8 พันล้าน ด้าน “ภากร” ชี้นักลงทุนแพนิกข่าวไวรัสโคโรนามากเกินไป ทั้งมีแรงขายออกมาในทุกกลุ่ม วอนพิจารณาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้(27ม.ค.) ปรับตัวลดลงแรงตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเช้า ก่อนจะมีแรงขายออกมามากขึ้นในช่วงสายของวัน ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,519.03 ลดลง 50.52 ก่อนจะรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยมาปิดตลาดที่ระดับ 1,524.15 ลดลง 45.40 คิดเป็นการลดลง 2.89% มูลค่าการซื้อขายรวม 69,174.19 ล้านบาท
ขณะที่ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยราว 2,733.27 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,492.20 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,625.43 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไป เป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิจำนวน 7,850.89 ล้านบาท
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง เพราะ นักลงทุนกังวลเรื่องการระบาดไวรัสโคโนรามากเกินไป จึงมีแรงแทขายหุ้นออกมาทุกกลุ่ม เพราะ ยังไม่รู้ว่าผลกระทบดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดที่มีการเปิดซื้อขายในอาเซียน ทำให้นักลงทุนแห่เทขาย
ทั้งนี้อยากให้นักลงทุนพิจารณาข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลว่าอุตสาหกรรมไหนที่จะถูกกระทบจากการระบาดของไวรัสฯ และอุตสาหกรรมไหนไม่ถูกกระทบราคาหุ้นก็ไม่ควรที่จะมีการปรับตัวลดลง ดังนั้น มองว่าเป็นโอกาสซื้อหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของอุตสาหกรรม
สำหรับช่วงเช้าตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการรายงานข้อมูลแก่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ถึงความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยซึ่งเป็นการปฏิบัติตามปกติ และเชื่อว่า ตลท.จะไม่มีการใช้มาตการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์)