กลุ่มรับเหมาฯ เด้งยกแผง ขานรับผลวินิจฉัยศาลฯ ตัดสินงบปี 63 ไม่เป็นโมฆะ
ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวบวกยกแผง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นโมฆะ และให้โหวตใหม่วาระ 2-3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวบวกยกแผง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นโมฆะ และให้โหวตใหม่วาระ 2-3 ซึ่งนำโดยบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO บวก 1.56% ราคาเพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาอยู่ที่ 6.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 38.98 ล้านบาท , บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จากัด (มหาชน) หรือ ITD บวก 0.66% ราคาเพิ่มขึ้น 0.01 บาท มาอยู่ที่ 1.53 บาท มูลค่าการซื้อขาย 26.64 ล้านบาท ,บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC บวก 0.62% ราคาเพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาอยู่ที่ 16.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,090 ล้านบาท และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK บวก 0.47% ราคาเพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาอยู่ที่ 21.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 789 ล้านบาท
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ประเมินกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดว่าดาวน์ไซด์จำกัดและแนวโน้มสดใสสำหรับปี 2564 พร้อมแนะนำให้ “Overweight” หุ้นSTEC , CK , SEAFCO และPYLON โดยคาดว่าแม้ว่าการผ่านร่างงบประมาณจะล่าช้า แต่มองว่าจะกระทบกลุ่มรับเหมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ไม่ใช่เป้าหมายของบริษัทในตลาด และสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณปี 2563 เช่น รถไฟรางคู่ทั้ง 2 สายสามารถประมูลไปพร้อมกับกระบวนการผ่านร่างได้ เนื่องจากต้องใช้เวลาหลายเดือนและโครงการที่ไม่ได้ใช้งบส่วนนี้จะไม่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่คาดว่าการเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, ทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง และผลของการประมูลสนามบินอู่ตะเภาใน ช่วงครึ่งปีแรกปีนี้จะช่วยเพิ่มงานในมือและทำให้บริษัทที่มีงานในมือสูงจะไม่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้า รวมถึงมีผลประกอบการที่ดีในปีนี้ นอกจากนี้คาดว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้นในปี2563 เช่น รันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ, MRT สายสีส้ม ส่วนต่อขยายสายสีแดง และรถไฟรางคู่เฟสที่ 2 ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น CK และ STEC ได้ประโยชน์ และ SEAFCO กับ PYLON ได้ประโยชน์ตาม