'พลังงาน' จ่อชงกพช.ไฟเขียว ดัน กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่ม

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ Future Energy Asia 2020 ว่า ประเทศไทย มีนโยบายจะเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มากขึ้น เพื่อสงวนแหล่งก๊าซธรรมชาติไว้ป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานปิโตรเคมีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือน มี.ค.นี้ พิจารณาแผนการจัดหาและนำเข้า LNG เพิ่มเติม ในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อผลักดันให้เกิด shipper รายที่ 2 ซึ่งจะไม่กระทบต่อสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติหลัก (Global DCQ) ระหว่าง ปตท.และ กฟผ. ในระยะ 10 ปี ที่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ด กฟผ. แล้ว ในปริมาณ 3.5 ล้านตันต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 6 แสนตัน กฟผ.เตรียมนำเข้าแบบ Spot ในปีนี้ และปีหน้า อีกกว่า 1 ล้านตัน เพื่อมาป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าพระนครใต้ พระนครเหนือ และบางปะกง

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะเปิดทางให้ กฟผ.สามารถเข้ามาทำธุรกิจเทรดดิ้ง LNG ได้ด้วย แต่จะต้องปรับแก้ พ.ร.บ. กฟผ. เพื่อให้สามารถจัดตั้งบริษัท ขึ้นมารองรับการทำธุรกิจเทรดดิ้ง LNG  รวมถึง ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้า กฟผ.ยังเตรียมจัดตั้งบริษัท เทรดดิ้งไฟฟ้า เพื่อรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว ส่งผ่านไปขายไฟฟ้าให้กับเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เมียนมา และกัมพูชา ได้ทันกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากลาวที่จะเข้าระบบภายใน 3-4 ปีข้างหน้าด้วย

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ปตท. อยู่ระหว่างการจัดแผนธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้สอดรับสถานการณ์ความต้องการใช้ก๊าซฯที่เปลี่ยนแปลงไป และนโยบายภาครัฐ โดยเบื้องต้น ปตท. มีแผนที่จะหันไปจัดทำตลาด LNG ป้อนลูกค้าอุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อส่งก๊าซฯมากขึ้น ล่าสุด ปตท. ดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อให้คำปรึกษาโรงงานอุตสาหกรรมที่ยังใช้เชื้อเพลิงไม่สะอาด อาทิ น้ำมันเตา ถ่านหิน เพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงแทน

ด้านนายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. กล่าวว่า ปตท.ได้เปิดให้ลูกค้าที่สนใจจะเปลี่ยนมาใช้ LNG ตามโครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ยื่นสมัครถึงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ โดย ปตท.จะเข้าไปให้บริการสำรวจพื้นที่และตรวจประเมินเครื่องจักร เพื่อให้คำปรึกษา ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องจักร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิง เบื้องต้น ปตท.ได้ลงนามสัญญากับตัวแทนจำหน่ายแล้ว 4-5 ราย ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อรับก๊าซฯจาก ปตท. ไปจำหน่ายให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซฯ คาดว่า จะทำให้ยอดการใช้ LNG ปีนี้เติบโตขึ้นจากปีก่อน

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าพื้นที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียม แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61(แหล่งเอราวัณ)ว่า บริษัท ในฐานะผู้ได้รับสิทธิรายใหม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ แต่ปัจจุบันทางภาครัฐโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรายเดิม คาดว่า จะสามารถเข้าพื้นที่ได้ภายในปีนี้

ทั้งนี้ บริษัท มีความพร้อมที่จะลงทุนติดตั้งแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อรักษาระดับกำลังการผลิตก๊าซฯทั้งแหล่งเอราวัณและบงกช ให้มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในอีก 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 2,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

นอกจากนี้ บริษัท มีแผนจะออกหุ้นกู้วงเงิน 300 ล้านดอลลาร์ ภายในไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 2 ปีนี้ เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมที่จะครบกำหนด