เบื้องหลัง ‘อีเมล’ ลวง ทำ SPRC สูญเกือบ 700 ล้าน
เป็นหนึ่งใน “ประเด็นร้อน” เฉพาะตัวที่เข้ามาสอดแทรกช่วงภาวะตลาดย่ำแย่ สำหรับ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือ SPRC ซึ่งออกมายอมรับ “ถูกหลอก” จากบุคคลภายนอก ทำให้บริษัทต้องสูญเงินถึง 22.4 ล้านดอลลาร์ หรือเฉียด 700 ล้านบาท
หนึ่งใน “คำถามสำคัญ” จากผู้ถือหุ้นต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
“ทิโมธี อลัน พอตเตอร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPRC ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเป็นความรับผิดชอบของเขาในฐานะ “ซีอีโอ” ของบริษัท แต่สิ่งที่ทีมบริหารของบริษัทเร่งดำเนินการในทันที คือ “การป้องกัน” ไม่ให้เกิดความผิดพลาดในลักษณะนี้ขึ้นอีกอย่างแน่นอน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานว่าจะสามารถทำงานได้ตามปกติ ภายใต้การตรวจสอบข้อมูลที่ยังคงดำเนินอยู่นี้
ขณะที่ “วิชัย ชุณหสมบูรณ์” ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง SPRC เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของประเด็นดังกล่าวว่า ความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา แต่สาเหตุที่บริษัทตัดสินใจยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะในทันที เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบและรวมรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ทำให้บริษัทสามารถตอบข้อสงสัยต่างๆ ได้อย่างดีที่สุด
โดยสรุป ภายหลังการสอบสวนทั้งจากการตรวจสอบภายใน และตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก พบว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพนักงานภายในบริษัทแต่อย่างใด แต่เกิดจากการจงใจ ‘หลอกลวง’ ของบุคคลภายนอก เพื่อให้บริษัทชำระค่าสินค้าและบริการไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง
“หลังจากทราบเรื่องที่เกิดขึ้น บริษัทได้ปิดระบบชำระเงินทั้งหมดทันที และเริ่มตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของทางบริษัท เพื่อหยุดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนอกเหนือไปจากนั้น โดยบริษัทได้ประสานทั้งตำรวจภายในและภายนอกประเทศ เพื่อตรวจสอบและติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น และเริ่มตรวจสอบระบบการจ่ายเงินและระบบอีเมลว่ามีข้อบกพร่องอย่างไร”
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจาก “บุคคลภายนอก” ที่ทำการปลอมแปลงอีเมลคู่ค้าของบริษัท รวมทั้ง “แฮค” ข้อมูลการติดต่อระหว่างบริษัทกับคู่ค้าในอดีต ทำให้ผู้ไม่หวังดีรู้ถึงรายละเอียดของการติดต่อ จนทำให้บริษัทหลงเชื่อว่าเป็นคู่ค้าที่แท้จริง ซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงบัญชีการรับชำระเงิน ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทางการค้าระหว่างบริษัทและคู่ค้าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามเงินที่ชำระไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงระบบการชำระเงินและแก้ไขระบบอีเมลของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าความผิดพลาดในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
“ด้วยวัฒนธรรมองค์กรของ SPRC เมื่อเกิดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุใดๆ ขึ้น เราจะไม่ได้พยายามหาคนผิดและโทษไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรไม่ให้เกิด(ความผิดพลาด)ขึ้นอีก (ในกรณีนี้)ทันทีที่รู้ถึงความผิดพลาด เราได้ตั้งทีมเฉพาะกิจและบริหารงานภายใต้วิกฤตขึ้นเพื่อดูแลโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันบริษัทก็เก็บข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับเพ่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้เลย”
นอกจากประเด็น ‘อีเมลลวง’ ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น ทิศทางของธุรกิจโรงกลั่นต่อจากนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญซึ่งกดดันให้บริษัทต้องขาดทุนเป็นครั้งแรกนับแต่เข้าจดทะเบียนในปี 2558
“ทิโมที อลัน พอตเตอร์” เปิดเผยต่อว่า ปัจจัยลบที่ส่งผลให้ผลประกอบการต้องพลิกเป็นขาดทุน คือ การปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 5 – 6 ปี ขณะเดียวกันค่าการกลั่นในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยค่าการกลั่นเมื่อปี 2562 อยู่ที่ 3.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าการกลั่นในไตรมาส 4 ปี 2562 อยู่ที่ 2.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนจะลดลงต่อเนื่องไปต่ำสุดในระดับ 0 – 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะนี้
“เราคาดหวังว่าในปีนี้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของค่าการกลั่น หากสถานการณ์ที่กดดันอย่างโควิด-19 เริ่มคลี่คลายได้ ซึ่งจะช่วยให้ดีมานด์กลับมาเติบโตอีกครั้ง สำหรับปัจจุบันอุตสาหกรรมโรงกลั่นอยู่ในจุดต่ำของวัฎจักรขาลงแล้ว แต่ยังทำนายได้ยากว่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปเมื่อใด”