อสังหาฯ“ไลฟ์สด”ดันยอดขาย แก้เกมโควิดคนไม่ออกนอกบ้าน
ดีเวลลอปเปอร์เปิดช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ถึงขึ้น‘ไลฟ์สด’เรียกลูกค้า ในช่วงวิกฤติจากโควิด ทำให้ผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาอยู่บ้านมากขึ้น
จากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ส่งผลให้ทุกคนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ยิ่งตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำให้ผู้คนไม่กล้าไปยังสถานที่ชุมนุมชน อยู่ติดบ้านกันมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายร้านค้าต่างๆไม่เว้นกระทั่งสินค้าราคาแพงอย่างบ้าน และคอนโดมิเนียม ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ต้องเปิดช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ถึงขึ้น‘ไลฟ์สด’เรียกลูกค้า ่ในวิกฤติยังเป็นโอกาสสำหรับช่องทางขาย “ออนไลน์” ที่เข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่แย่ที่สุดในรอบ4ปีของอสังหาฯไทยโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นธุรกิจยังคงต้องเดินต่อไป โดยถ้าสังเกตให้ดีมีหลายโครงการยังขายได้ ปัจจัยหลักหนีไม่พ้นปัจจัยเรื่องราคา สินค้าบวกทำเล การออกแบบ และการดูแลหลังการขาย
ยกตัวอย่างโครงการไซมิส พระราม9 ซึ่งเป็นโครงการอสังหาฯผสมผสาน (มิกซ์ยูส) มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท จำนวน 1,700 ยูนิต ไม่รวมโรงแรม ทั้งที่โครงการยังไม่ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่ยอดขายอยู่ที่กว่า 50% คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท
ขจรศิษฐ์ ยังระบุถึงกลยุทธ์ผลักดันยอดขายว่า เมื่อลูกค้าต่างชาติไม่สะดวกเดินทางมายังประเทศไทย บริษัทเลือกที่จะใช้ “วิธีไลฟ์สด”เพื่อขาย ผ่านวีแชต เฟซบุ๊ก โดยให้เอเยนต์ดำเนินการ จากสมัยก่อนไลฟ์สดเพื่อเปิดตัวโครงการเท่านั้น ผลปรากฏว่า หลังไลฟ์สดแล้วได้รับผลการตอบรับที่ดี
“หากไม่ไลฟ์สดจะไม่มียอดขายเข้ามาเลย จากที่เคยขายได้สัปดาห์ละ10 ห้อง ตอนนี้เหลือสัปดาห์ละ 7 ห้อง ในแง่ต้นทุนโอเปอเรชั่นลดลงเพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าบินมา แต่เราจ่ายให้เอเจนต์เท่าเดิม คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย คาดว่า วิธีการไลฟ์สดจะเป็นอีกทางหนึ่งในการขายสินค้าอสังหาฯ ในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ”
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับแผนรับมือสถานการณ์กำลังซื้อที่ชะลอตัว ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเข้ามาดูโครงการน้อยลง โดยบริษัทจะมีโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เป็นตัวกรองข้อมูลทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และต้นทุนถูกกว่าการใช้สื่อออฟไลน์
ปัจจุบันมียอดขายจากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 50% ผ่านทางโซเซียลมีเดียต่างๆ รวมถึงการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งใช้ช่องทางออนไลน์เช่นเดียวกัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าสัดส่วนการขายผ่านช่องทางออนไลน์จะเพิ่มขึ้นอีก
“ขณะนี้วิธีการกระตุ้นยอดขายที่ดีที่สุด เราต้องขายผ่านออนไลน์ เพราะไม่สามารถจัดกิจกรรมอะไรออกมามากนัก จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแทน”
สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้ให้บริการมาร์เก็ต เพลส และคอนเทนต์ อสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า แนวโน้มการขายผ่านช่องออนไลน์ จะเพิ่มขึ้น หลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากพฤติกรรมคนเปลี่ยนอยู่บ้านมากขึ้นและใช้ช่องออนไลน์ในการสั่งซื้อสินค้าและบริการมากขึ้นแทนที่จะออกไปนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันนักพัฒนาอสังหาฯก็มองเห็นโอกาสจากปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการขยายช่องทางขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น
“ในวิกฤติ ย่อมมีโอกาสเสมอ จากสถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นโอกาส ของการทำตลาดออนไลน์ เพราะคนไม่ออกจากบ้านเกิดปรากฏการณ์การจองซื้อบ้านผ่านออนไลน์ แต่อาจต้องใช้เทคโนโลยีอื่นเข้ามาเสริม เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับลูกค้า ในการจำลองบรรยากาศห้องโครงการจริง ให้ลูกค้าสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมเมื่ออยู่อาศัยภายในห้อง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในธุรกิจอสังหาฯ เร็วขึ้น ”