“อสังหาฯ” หั่นงบ ฉุดยอดซื้อโฆษณา 2 เดือนโตต่ำ 

นีลเส็น ประเทศไทย รายงานมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ปี 2563 มีมูลค่า 17,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 58% หรือคิดเป็นมูลค่า 10,398 ล้านบาท ส่วนสื่ออื่นๆ เช่น อินเตอร์เน็ต มูลค่า 3,006 ล้านบาท สื่อโฆษณานอกบ้าน และสื่อเคลื่อนที่ 2,025 ล้านบาท

นีลเส็น ระบุว่า หากพิจารณาการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง มูลค่า 2,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% รองลงมาคือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่า 2,370 ล้านบาท ลดลง 2% กลุ่มสื่อและการตลาดแบบตรง (Media & Marketing) มูลค่า 1,685 ล้านบาท ลดลง 6% กลุ่มยานยนต์ 1,340 ล้านบาท เพิ่มขึ่น 4% และกลุ่มเวณภัณฑ์ยา 1,119 ล้านบาท เพิ่มสูงถึง 58%

นอกจากนี้ ยังพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิงมีการใช้จ่ายเงินโฆษณาคึกคัก 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% และกลุ่มธุรกิจการศึกษา 153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% ยังมีกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้จ่าย 284 ล้านบาท และธุรกิจเกษตร 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เท่ากัน ขณะที่อุตสาหกรรมที่ใช้เงินลดลงมาก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 222 ล้านบาท ลดลง 28%

ส่วนบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดของช่วง 2 เดือนแรก ได้แก่ บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ไทย) โฮลดิ้งส์ จำกัด มูลค่า 643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนก.พ.คือผลิตภัณฑ์ใหม่ คอมฟอร์ท น้ำเดียว ซันซายน์ ทุ่มงบผ่านสื่อทีวี มูลค่า 25 ล้านบาท รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมซันซิล ใหม่ สื่อสารผ่านทีวีมูลค่า 24 ล้านบาท

ตามด้วย บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด (ในเครืออาร์เอส) มูลค่า 465 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนก.พ. คือผลิตภัณฑ์เอส.โอ.เอ็ม. ซีแม็คซ์ ใช้เงินผ่านสื่อทีวีมูลค่า 32 ล้านบาท รองลงมาคือเอส.โอ.เอ็ม. ไอ-แคร์ ดูแลสุขภาพดวงตา ใช้เงินผ่านสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท และบริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด(มหาชน) มูลค่า 351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแคมเปญที่ใช้เงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ คือ เครื่องบดสับปั่น ซื้อ 1 แถม 1 เทเงินผ่านสื่อทีวีมูลค่า 23 ล้านบาท รองลงมาคือชุด ม๊อปพร้อมถังปั่น SJ MOP รุ่น BABY SHARK ใช้เงินผ่านสื่อทีวีมูลค่า 14 ล้านบาท