ไรมอนแลนด์”สู้ศึกโควิด ดึงคอนโดหรูทำโมเดลเช่า
ไรมอนแลนด์ปรับโสร้างธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19 ชะลอลงทุนและเลื่อนเปิดโรงแรมใหม่เป็นปลายปี พลิกกลยุทธ์คอนโดลักซ์ชัวรี่กลางเมืองทำโมเดลปล่อยเช่า หวังทำตลาดกลุ่มนักลงทุน ดันแผนสร้างรายได้ประจำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML นักลงทุนชาวสิงคโปร์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ ประเมินการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ -2019 (โควิด-19) ว่า ส่งผลทำให้ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวและส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะสั้นถึงระยะกลาง จึงมีแผนการบริหารจัดการภายในองค์กร เริ่มต้นจากการดูแลพนักงาน นักลงทุน และลูกค้า มีการชะลอการลงทุนโดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นปรับกลยุทธ์การรับมือให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อลดผลกระทบจาก โควิด-19
ทั้งนี้ยังประเมินว่ายังมีปัจจัยบวกในระยะกลาง และระยะยาว จากอัตราดอกเบี้ยต่ำและมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงมุ่งเน้นกระตุ้นการลงทุนในกลุ่มนักลงทุนที่ความพร้อมที่จะมองการลงทุนในระยะกลาง-ยาวเป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีราคาถูกลง จึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า จากส่วนต่างราคาของราคาที่จะกลับมาสูงขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าบนทำเลที่มีศักยภาพการเติบโต
ดังนั้น ไรมอน แลนด์เห็นโอกาสการเติบโตดังกล่าว จึงปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุก (Strategic Marketing) ให้สอดคล้องกันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยบริษัทจะพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนเป็นหลัก เช่น ดึงโครงการคอนโดลักซ์ชัวรี่บนทำเลใจกลางเมืองพัฒนาให้กับตลาดนักลงทุนกลุ่มปล่อยเช่า อาทิ เดอะ ลอฟท์ อโศก (The Lofts Asoke), เดอะ ดิโพลแมท 39 (The Diplomat 39) และ เดอะ ดิโพลแมท สาทร (The Diplomat Sathorn) ภายใต้การบริหารงานจาก Klapsons The River Residences Bangkok และบริษัท อสังหา เรียลตี้ บริษัทย่อยของ RML ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
นายไลโอเนล กล่าวถึงแผนการตลาดรุกขายผ่านช่องทาง Online ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) พัฒนาโปรแกรมให้ลูกค้ารับชมโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ผ่านระบบ Online ก่อนตัดสินใจเข้าชมโครงการจริง กระตุ้นความต้องการซื้อและเข้าถึงลูกค้าโดยตรง
“ช่วงสถานการณ์นี้ออนไลน์เป็นช่องทางที่ความปลอดภัยต่อสุขภาพลูกค้า และช่วยผลักดันยอดขายโครงการได้เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทวางแผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ใหม่ 1 โครงการ บนถนนสุขุมวิท ซอย 38 ซึ่งจะเป็นโครงการที่ 3 ที่มีการร่วมทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) โดยดึงกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) จากประเทศญี่ปุ่น
ด้านธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ที่เคยวางแผนไว้( Recurring Income) ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจโรงแรม ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บริษัทจึงเลื่อนเปิดตัวโรงแรม HOTEL KITCH จากเดิมในเดือนเม.ย.2563 เป็นช่วงครึ่งปีหลังแทน โดยเป็นโรงแรมคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์และบริหารโรงแรมเอง มีจำนวน 72 ห้อง รวมไปถึงแผนจะเปิดตัวโรงแรมใหม่อีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท จำนวน 300 ห้อง เน้นความทันสมัยนำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการและบริการ ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ( Food & Beverage )มีการบริการจัดการความเสี่ยง จึงวางกลยุทธ์ใหม่กับร้านอาหารบ้านหญิง โดยศึกษาโอกาสการร่วมทุนกับพันธมิตรอื่นๆ
ขณะที่ยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ของบริษัททั้งหมด ณ สิ้นปี 2562 มีมูลค่ารวม 8,010.5 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการ The Lofts Silom ที่คาดว่าจะทยอยโอนฯ ซึ่งมียอดขายแล้ว 80%
“บริษัทมีการทำการตลาดเชิงรุกสร้างแบรนด์ ไรมอน แลนด์ ในฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีBacklog ที่แข็งแกร่ง พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าในเวลาและโอกาสที่เหมาะสม โดยปรับกลยุทธ์ บริหารจัดการธุรกิจให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ พร้อมร่วมมือกับพันธมิตร นักลงทุน และลูกค้า ให้ผ่านวิกฤติไปพร้อมกัน”