เข้าสู่ช่วงปรับฐาน
สหรัฐฯและรัสเซียตกลงที่จะพูดคุยกันเพื่อหาทางสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมัน
KGI ประเมิน SET Index วันพุธปรับลดลง แต่ไม่น่าจะรุนแรง... หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ปรับขึ้นร้อนแรงกว่าที่เราคาด ปิดบวก 3.50% แต่สำหรับช่วงไตรมาส 1/2563 SET Index ลดลงไปถึง 28.7%...ขณะที่ในวันนี้ซึ่งเป็นวันทำการแรกของไตรมาส 2/2563 มองปัจจัยแวดล้อมเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) แรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุนในประเทศน่าจะน้อยลง หลังผ่านช่วง window dressing และในวันนี้จะเริ่มมีการเปิดขายกองทุน SSF พิเศษกันแล้ว ii) valuations ของตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจนักสำหรับภาพระยะสั้น โดยดัชนีฯ ขึ้นมาเทรดที่ forward PE 2563-consensus 13.9 เท่า (หากใช้ EPS ของ KGI ซึ่งเรามองต่ำกว่า consensus... forward PE ขณะนี้ขึ้นมาที่ 14.6 เท่าแล้ว) และมี earnings yield gap ที่ต่ำกว่า 6.0% iii) สถานการณ์ Covid-19 ยังเป็นลบ ประเทศสเปนกลับมารายงานจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ ปธน.ทรัมป์ แถลงว่าสหรัฐฯ น่าจะมีผู้เสียชีวิตจาก Covid-19 สูงถึง 1 แสน -2.4 แสนคน... ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามต่อได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งในช่วงสั้น มีทั้งปัจจัยลบและปัจจัยบวกปะทะกัน โดยในส่วนของฝั่งลบนั้น ข้อตกลงการลดปริมาณผลิตของกลุ่ม OPEC+ สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้และซาอุฯ น่าจะปรับเพิ่มปริมาณผลิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ในขณะเดียวกันก็มีรายงาข่าวว่าสหรัฐฯและรัสเซียตกลงที่จะพูดคุยกันเพื่อหาทางสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมัน (ต้องติดตามต่อไป)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร CPALL*, TFG / ถัวหุ้นพื้นฐานดีต่อ
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 83 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 60.5 บาท และ 59 บาท / แนวต้าน 62 - 64 บาท (Stop loss 57 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้นค้าปลีกที่ยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติในช่วงพรก. ฉุกเฉิน ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าหุ้นค้าปลีกตัวอื่น และมาตรการเยียวยาค่าครองชีพภาครัฐ
ฯจะเป็น Sentiment บวกโดยตรง 3) ระยะสั้น อาจมีปัจจัยลบเรื่องการลงทุนใน Tesco กดดัน (ตลาดฯกังวลเรื่องการกู้เงิน) ด้าน Upside จึงเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมแนวรับ
- TFG (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.0 บาท / แนวต้าน 3.28 - 3.60 บาท (Stop loss 2.9 บาท) 2) ประเมินหุ้นผู้ผลิตอาหารอย่าง TFG จะ Outperform ตลาดฯในสถานการณ์ปัจจุบัน (หุ้นปัจจัย 4) 3) ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อย่างข้าวโพด + ถั่วเหลืองราคาต่ำต่อเนื่อง ขณะที่ราคาขายเนื้อ สัตว์ (หมู + ไก่) ยังยืนสูง
- สะสมหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานดีกว่าตลาดฯ กลยุทธ์ Dollar cost average ราคาหุ้นย่อค่อยสะสม เน้นหุ้นถูก + หนี้ต่ำ + ได้รับผลกระทบน้อย (คาดกำไร 1Q63 Outperform ไม่ลงหรือบวกสวนภาพรวมตลาดฯ)
i) INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 48.5 บาท และ 47.5 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท ... หากตํ่ากว่า 44.5 บาท ชะลอการลงทุนก่อน
ii) EGCO* (เป้าพื้นฐาน 370 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 225 บาท และ 220 บาท / แนวต้าน 240 - 260 บาท ... หากตํ่ากว่า 200 บาท ชะลอการลงทุนก่อน
iii) BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.0 บาท และ 11.7 บาท / แนวต้าน 13.2 -13.6 บาท ... หากตํ่ากว่า 11.0 บาท ชะลอการลงทุนก่อน
หุ้นมีข่าว
(+) วานนี้ (31 มีนาคม 2563) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยแผนการอุดหนุนค่าบริการอินเตอร์เน็ตให้แก่ประชาชนเป็นเวลา 30 วัน เพื่อสนับสนุนการทำงาน/เรียน ออนไลน์ที่บ้าน ในระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 โดยสามารถแบ่งการอุดหนุนเป็น 2 รูปแบบ คือ i) ให้ปริมาณอินเตอร์เน็ตมือถือ ฟรี 10 GB ii) เพิ่มความเร็วของบรอดแบนด์ (เน็ตบ้าน) เป็น 100 Mbps สำหรับผู้ที่ใช้แพคเกจความเร็วต่ำกว่า 100 Mbps โดยผู้ที่จะใช้สิทธิสามารถกดขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 10 เมษายน 2563 – 30 เมษายน 2563 นี้ (ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ)
ความเห็นของนักวิเคราะห์: แผนการอุดหนุนครั้งนี้เป็นบวกต่อผู้ประกอบการมือถือทุกราย (ADVANC*DTAC* และ TRUE*) รวมทั้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ADVANC JAS* และ TRUE) ที่คาดจะได้รับการชดเชยค่าบริการจาก กสทช. ในวงเงินรวม 3 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากเงินกองทุนของ กสทช. คือ
เงินกองทุนเพื่อสนับสนุนบริการในพื้นที่ห่างไกล (Universal Service Obligation –USO) ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า กสทช. จะจ่ายเป็นเงินชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการ หรือ นำไปหักจากเงินที่ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องจ่ายเข้ากองทุน USO โดยที่ประชาชนที่จะได้รับสิทธิเพิ่มความเร็วเน็ตบ้าน จะอยู่ที่ราว 2 ล้านรายด้วยงบอุดหนุน 50 บาท/เดือน (รวมประมาณ 100 ล้านบาท) ดังนั้น คาดเงินชดเชยส่วนใหญ่จะไปตกที่ผู้ประกอบการมือถือ ทั้งนี้ เราประเมินผลบวกจากมาตรการอุดหนุนนี้ที่มีต่อผู้ประกอบการมือถือ ราว 1พันล้านบาท/ราย หรือคาดจะเพิ่มมูลค่าเหมาะสมของ ADVANC ได้ราว 0.34 บาท DTAC 0.41 บาท และ0.03 บาท ต่อ TRUE
(+) EPG* แย้ม Aeroflex USA ผลิตปกติ ทางการสหรัฐชี้เป็นสินค้าจำเป็น (ข่าวหุ้น) EPG* เผยฉนวนกันความร้อน/เย็นของ Aeroflex USA เปิดดำเนินการผลิตตามปกติ หลังภาครัฐชี้เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับระบบปรับอากาศ อุตสาหกรรมอาหาร และยา ในสหรัฐฯ ยันใช้มาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เข้มงวด ส่วนโรงงานแอร์โรเฟลกซ์ 5 โรงงานแห่งใหม่ จ.ระยอง เริ่มผลิตมี.ค.ที่ผ่านมา หนุนกำลังการผลิต30,000 ตัน/ปี เร่งขยายตลาดทั่วทวีปเอเชีย
(+) 3 ค่ายมือถือแฮปปี้ข่าวดี ยอดใช้งานเน็ตพุ่ง 20% (ข่าวหุ้น) ADVANC*-DTAC*-TRUE* แฮปปี้ !รับอานิสงส์โควิด-19 ดันยอดการใช้งานอินเทอร์เน็ตพุ่ง 10-20% พร้อมมอบซิม Student SIM และจัดแพ็กเกจเดือนละ 400 บาท ใช้เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 4 Mbps นาน 3 เดือน ด้านสภาดิจิทัลฯ ผนึกพันธมิตรนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเร่งช่วยเหลือคนไทยในช่วงโควิด-19
(+) RS โวยอดขายมี.ค.พุ่ง รับอานิสงส์คนช็อปอยู่บ้าน (ประชาชาติธุรกิจ) RS รับอานิสงส์ช็อปออนไลน์ออนแอร์พุ่ง หลังคนอยู่บ้านช่วงไวรัสระบาด เผยยอดขายเดือน มี.ค. โตแกร่ง 35% พร้อมปรับแผนเชิงรุกดันธุรกิจคอมเมิร์ซโตสวนกระแส
(+) CBG* ชู Woody C+Lock ขายดี อัพการผลิตรับออเดอร์พุ่ง (ทันหุ้น) CBG* ปลื้ม WoodyC+Lock (วู้ดดี้ ซี+ล็อค) ขายดี ลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง หนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก แย้มผลงาน Q1/2563 ยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ยอดขายยังดี ส่วนยอดขายต่างประเทศมีออ
เดอร์ล่วงหน้าไปถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว เชื่อทั้งปีผลงานโตไม่ต่ำกว่า 25% แย้มปลายปีเล็งออกสินค้าประเภท Functional Drink เพิ่ม