TISCO - ถือ

TISCO - ถือ

โตน้อยเลยเจ็บไม่ค่อยหนัก

Event

ประมาณการ 1Q63F และปรับลดประมาณกำไรทั้งปี

lmpact

นโยบายการขยายสินเชื่อรถยนต์แบบอนุรักษ์นิยมช่วยให้ TISCO ไม่ขาดทุนมาก

นโยบายการขยายสินเชื่อรถยนต์แบบอนุรักษ์นิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ TISCO เผชิญแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ในธุรกิจนี้ลดลง โดยสินเชื่อ H/P หดตัว -2% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และธนาคารก็บอกว่ายอดชำระคืนสุทธิของสินเชื่อ H/P อยู่ที่ประมาณ 4.0 พันล้านบาท/เดือน นอกจากนี้ ยอดขายรถใน
ประเทศที่ลดลง 13% YoY ใน 2M63 (-8% ในเดือนมกราคม/-18% ในเดือนกุมภาพันธ์) และคาดว่าจะลดลงไปอีกในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ก็น่าจะทำให้สินเชื่อ H/P ของ TISCO หดตัวในระดับสองหลักในปี 2563 ซึ่งหลังจากที่เราได้คุยกับธุรกิจปล่อยสินเชื่อ H/P หลายแห่งแล้วก็พบว่าสถานการณ์โรค
ระบาดทำให้ราคารถมือสองตกหนัก และบริษัทลิสซิ่ง ต่างก็มีผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมาเฉลี่ยประมาณ 35% (สูงขึ้นจากใน 4Q62 ที่ -25%)

นโยบายของ ธปท. ช่วยคลายแรงกดดันเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ในระยะสั้น

การที่ ธปท. อนุญาตให้ธนาคารต่าง ๆ คงสถานะการจัดชั้นสินเชื่อของลูกหนี้เอาไว้ที่ระดับเดิมก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โรคระบาด และสนับสนุนให้ธนาคารช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้วยการปรับกำหนดชำระหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยลดแรงกดดันที่ธนาคารจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นก้อนใหญ่

คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63F จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-18% QoQ และ -12% YoY)

เราใช้สมมติฐานสินเชื่อติดลบที่ -2% QoQ และ -1% YoY และคาดว่ามาร์จิ้นจะดีขึ้นเล็กน้อย 6bps เนื่องจากต้นทุนทางการเงินลดลง ในขณะที่คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะลดลงถึง 32% QoQ และ 9%YoY โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะลดลง และค่าใช้จ่ายในการกันสำรองจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผลขาดทุนมากขึ้นจากการขายรถที่ยึดมา นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะกลับรายการสำรองหนี้เสียส่วนเกินมาเป็นรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ าจะปลดสำรองส่วนเกินกลับมาบันทึกเป็นรายได้รวม 2 พันล้านบาท (ทยอยบันทึกในระยะเวลาห้าปี)

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563/64 ลง 11%/10% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2563F เหลือ 89 บาท (จากเดิมที่ 107 บาท)

เราเป็นห่วงสถานการณ์โรคระบาดที่เร่งตัวขึ้นใน 2Q63 และ 3Q63 ดังนั้น เราจึง 1.) ปรับเพิ่มสมมติฐาน credit cost ปี 2563/64 เป็น 70bps/60bps (จากเดิมที่ปีละ 50bps) 2.) ปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง (จากธุรกิจ AM และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ) เป็น -15%/0% (จากเดิมที่ -10%/+5%) ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563/64 ลง 11%/10% ซึ่งเมื่อใช้ P/E ที่ 12.7x (ค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง) ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 89 บาท เรามองว่า TISCO เป็นหุ้นปันผลที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 11% (กำหนดขึ้น XD วันที่ 27 เมษายน 2563

Risks

รายได้ค่าธรรมเนียมตํ่ากว่าที่คาดไว้ NPL ขยับสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น