SKY - ซื้อ
ปรับลดประมาณการจากผลกระทบไวรัสโควิด-19
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
- 4Q19 พลิกขาดทุนสุทธิ จากการเพิ่มพนักงานเพื่อรองรับการเติบโต :
รายได้จากการดำเนินงานงวด 4Q19 อยู่ที่ระดับ 508.2 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับฐานสูงในไตรมาสก่อน -73.9%QoQ เนื่องจากใน 3Q19 มีการส่งมอบงานโครงการ USO 2 และ CCTV ซึ่งเป็นงานโครงการขนาดใหญ่ แต่หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนยังคงเติบโต +223.8%YoY เนื่องจากบริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจพร้อมปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายและวางระบบแบบเบ็ดเสร็จเป็นหลัก ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น 4Q19 เพิ่มขึ้นจาก 12% ในไตรมาสก่อน เป็น 14.1% จากการทยอยยกเลิกสัญญาเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคัดแยกจดหมายกับ ไปรษณีย์ไทย ทีมี Margin ต่ำ แต่ปรับตัวลดลงจากระดับ 17.8% ใน 4Q18 จากการเปลี่ยนนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้ตามมาตรฐานบัญชี TFRS 15 ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 17.7% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 3.7% ใน 3Q19 ตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างพนักงานเป็นหลัก ประกอบกับบริษัทมีการเพิ่มพนักงานทั้งในระดับผู้บริหาร วิศวกรและพนักงานปฏิบัติงานโครงการเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต แต่หากเทียบกับ 4Q18 สัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้รวมปรับตัวลดลงจากระดับ 37.7% จากการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ส่งผลให้บริษัทพลิกขาดทุนสุทธิ 33.4 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 170.9 ล้านบาทใน 3Q19 และขาดทุนสุทธิ 4.1 ล้านบาท ใน 4Q18 โดยทั้งปีมีกำไรเท่ากับ 218.5 ล้านบาท เติบโต +101.4%YoY (ต่ำกว่าประมาณการทั้งปีของเรา -23.4%)
- ปรับลดประมาณการปี 20 จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19:
เราปรับลดรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิปี 20 ลง -14.7% และ -12.4% จากประมาณการเดิม ลงสู่ 4,316.17 ล้านบาท และ 272.3 ล้านบาท ยังเติบโต +9.0%YoY และ +24.6%YoY ตามลำดับ เนื่องจากงานประมูลภาครัฐได้ถูกเลื่อนออกไป และโครงการ AOT Digital Platform ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามบริษัทได้พยายามขยายสัดส่วนรายได้งานภาคเอกชนที่มี Margin ดีกว่างานภาครัฐมากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 10% โดยเน้นไปที่ตลาด Smart Securityและ Facility Management ในกลุ่มห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล โรงงาน สถานศึกษา และที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นลักษณะให้เอกชนเช่าซื้อ และบริษัทจะเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์ เก็บค่าบริการรายเดือนเป็น Recurring incomeในแก่บริษัท คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วง 2H20
- เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น ขาย PP เพื่อเป็นพันธมิตรเสริมธุรกิจ:
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น (คิดเป็น 3.7%ของหุ้นสามัญจดทะเบียนเดิม) เพื่อเสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา นางสาวบุศรา อุไรกุล และบมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท โดยบริษัทมีความประสงค์เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบุคคลในวงจำกัดดังกล่าว เพื่อต่อยอดโครงการ AOT Digital Platform ในด้านจำหน่ายสินค้าและบริการ และธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
- คงแนะนำ “ซื้อ” ปรับลดราคาเป้าหมายปี 20 เหลือ 70 บาท :
เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 20 จาก 18.30 บาท เหลือ 14.70 บาท ภายใต้สมมุติฐานประมาณการใหม่ และใช้ EPS Fully Diluted (รวมหุ้น PP 20 ล้านหุ้น) โดยประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER +1SD ของหุ้นกลุ่ม ICT ย้อนหลัง 3 ปีที่ 30 เท่า ยังมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 20.5% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
- การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่โดยเฉพาะภาครัฐ
- การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
3. การดำเนิงานโครงการและการส่งมอบงานล่าช้า