เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการ
สถานการณ์ระบาดโดยรวมในยุโรปยืนยันการผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ขณะที่สหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงสูงสุด ขณะที่ศูนย์กลางการระบาดกลายเป็นอังกฤษ และประเทศใหม่ๆ วึ่งไม่ได้ทำให้ตลาดตระหนก ขณะที่เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการ ซึ่งเบื้องต้นคาดการณ์กำไรบจ.ในสหรัฐฯ ปรับลดลงแล้วราว 20% ขณะที่บจ.ในไทยปรับลดลงจากต้นปีราว 32% ในระยะสั้นตลาดอาจให้น้ำหนักกับสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้น โดยมองข้ามผลประกอบการ อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและระวังความผันผวนของข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญๆ
นักลงทุนเพิ่มความคาดหวังการกลับมาเปิดธุรกิจ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ขณะที่จังหวัดปริมณฑลอย่าง นนทบุรี เริ่มผ่อนคลายเกณฑ์เฝ้าระวังโดยยอมให้มีการเปิดสถานที่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ตั้งแต่ 15 เม.ย. ได้แก่ 1) ร้านตัดผมและเสริมสวย 2) ร้านรับส่งพัสดุ 3) แผงค้าสลากกินแบ่ง 4) ร้านวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน 5) ร้านวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ 6) ศูนย์บริการทางโทรศัพท์มือถือ ระบบสื่อสาร 7) ร้านขายและซ่อมอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่อครัว ทั้งนี้การผ่อนปรนดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนรวม และรวมถึงกลุ่มห้างสรรพสินค้าและพื้นที่เช่า
ปัญหาภัยแล้งยืนยันความแข็งแกร่งของธุรกิจในนิคมฯ การที่บริษัทในนิคมอุตสาหกรรมไม่สามารถลดการใช้น้ำตามเป้าหมาย 10% ของการยนิคมอุตสาหกรรมได้ เป็นปัญหาเชิงบวกสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ทั้งนี้แม้มีประเด็นที่ค่าน้ำและค่าไฟ อาจปรับลดลงบ้างแต่ผลกระทบโดยรวมของรายได้คาดต่ำกว่าความผันผวนของธุรกิจโดยรวมในภาคบริการ เป็นบวกต่อ AMATA, WHA, WHAUP, EASTW
ภาพรวมกลยุทธ์ แม้มีโอกาสจะลุ้นต่อยอดไป 1250-1270 จุด หรืออาจถึง 1300 จุด แต่การเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง และใช้การหลุด 1185 จุด เป็นจุดตัดสินใจชะลอการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SYNEX, MFEC*, THRE* / ทยอยสะสม ADVANC, CPALL*, THRE*, EGCO, RATCH
แนวรับ 1,185-1,200 / แนวต้าน : 1,245 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%
ประเด็นการลงทุน
ADB เพิ่มวงเงินช่วยเหลือประเทศสมาชิกอีก 3 เท่า - รวมวงเงิน $2 หมื่นล้าน พร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือต่างๆ
ซาอุฯ เดินหน้าลดราคา OSP ลงอีกเล็กน้อย - ซาอุฯ ประกาศลงราคา OSP น้ำมันดิบลงเล็กน้อย เพื่อลดให้กลุ่มลูกค้าในเอเขียสามารถซื้อน้ำมันได้ถูกลงอีก $4.2 ต่อบาร์เรล และเพื่อสะท้อนอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอจากวิกฤตไวรัส Covid-19
ทรัมป์ปั่นตลาดน้ำมันอีกรอบ - ทรัมป์ เผยว่า การลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกอาจสูงถึง 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่ใช่เพียง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ให้น้ำหนักต่อคำพูดทรัมป์มากสะท้อนผ่านราคาน้ำมันดิบที่ยังแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำ
คำขอรับส่งเสริมการลงทุนโต 3% yoy - BOI เปิดเผยรายงานคำขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 1Q63 รวม 378 โครงการ เพิ่มขึ้น 3% yoy แต่มูลค่าการลงทุนลดลง 44% เหลือ 7.13 หมื่นล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ปรับเกณฑ์ หยุดการซื้อขาย (Circuit breaker) - เป็น 3 ระดับ (-8%/-15%/-20%) จากเดิม 2 ระดับ (-10% และ -20%) และให้ใช้เกณฑ์ใหม่นับจากนี้เป็นการถาวร
JKN – ตลท.สอบถามบริษัทเกี่ยวกับลูกหนี้ค้างชำระเกินระยะเวลาที่กำหนด 6 ราย วงเงิน 711 ล้านบาท โดยยอดคงเหลือ ณ 31 มี.ค.อยู่ที่ 602 ล้านบาท และลูกค้า 4 ใน 6 รายอยู่ระหว่างทำสัญญารับประกันการชำระหนี้กับสถาบัยการเงินที่คาดจะแล้วเสร็จเม.ย.63 ขณะที่อีก 2ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบของสถาบันการเงิน
ประเด็นติดตาม: 14 เม.ย. – World Economic Outlook by IMF, ตัวเลขการค้าจีน มี.ค. / 15 เม.ย. – US Retail Sales เดือน มี.ค. / 16 เม.ย. – US Beige Book, 17 เม.ย. – China GDP Q1/20
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)