STEC - ซื้อ
ประมาณการ 1Q63: กำไรจะทรงตัว YoY
Event
ประมาณการ 1Q63
lmpact
คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63 จะทรงตัว YoY
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ STEC ใน 1Q63 จะอยู่ที่ 333 ล้านบาท (-2.9% YoY, -34.5% QoQ) โดยกำไรที่ทรงตัว YoY จะเป็นเพราะรายได้ และ equity income ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการรถไฟฟ้า MRTสายสีชมพูและเหลืองหักล้างไปกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง (เพราะมีสัดส่วนของโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นหลังจบโครงการโรงไฟฟ้าไปใน 1Q62) ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะฐานสูงจาก equity income ของโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและเหลือง เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 9.2 พันล้านบาท (+23.2% YoY, +0.9% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 5.0% (จาก 4.5% ใน 4Q62 และ 7.3% ใน 1Q62) และคาดว่าสัดส่วน SG&A/ยอดขายจะเพิ่มขึ้นจาก 1.1% ใน 4Q62 เป็น 1.3% เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสัญญาโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภา ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรใน 1Q63F จะคิดเป็น 24.9% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
ได้รับผลกระทบทางลบจากการติดตั้งคานทางวิ่งโครงการ MRT สายสีชมพูและเหลือง
เราคาดว่าการกำหนด curfew ในช่วงกลางคืน (22.00 น. – 04.00 น.) ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการติดตั้งคานทางวิ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองซึ่งต้องทำการติดตั้งตอนกลางคืน แต่อย่างไรก็ตาม รฟม. ได้ปรับแผนการก่อสร้าง อย่างเช่น i) ปรับงานขนส่งมาเป็นกะ
กลางวัน ii) เริ่มงานกะกลางคืนเร็วขึ้นเป็นจาก 22.00 น. ถึง 19.00 น. ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันบริษัทติดตั้งคานทางวิ่งของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองเสร็จไปแล้ว 33.9% และ 41.7% ตามลำดับ
Backlog ยังแข็งแกร่งแม้จะมีการเลื่อนประมูลโครงการภาครัฐ
ในปัจจุบัน STEC มียอด backlog อยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในอีกประมาณ 2.5 ปี เรามองว่าใน backlog ในระยะสั้นยังมี upside อีกจากโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภาเฟส 1 (2 หมื่นล้านบาท) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย (2.5 พันล้านบาท) และ มอเตอร์เวย์ O&M (5-6 พันล้านบาท)
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 21.40 บาท อิงจาก PER ที่ 25x (PER เฉลี่ยระยะยาว +1 S.D.) เราเลือก STEC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเนื่องจาก i) backlog ยังเต็มมืออยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท และสถานะทางการเงินก็แข็งแกร่ง (เมื่อสิ้นงวด 4Q62 มีเงินสดในมือ 5.3 พันล้านบาท) ii) มีโอกาสได้ backlog เพิ่มอีกจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (มูลค่าประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาทสำหรับงานโยธา ซึ่งน่าจะออก TOR ได้ใน 1H63) และเราคาดว่า STEC จะจับมากับพันธมิตรกลุ่มเดิม (BGSR consortium)
Risks
ความล่าช้าของกำหนดงานก่อสร้าง ขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างแพงขึ้น